10 อันดับพฤติกรรมแปลกๆ ของแมว ที่อาจทำให้ทาสงง ไม่รู้ความหมาย

04 ก.ย. 2567 | 15:41 น.

เคยรู้สึกสับสน หรือไม่เข้าใจพฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าเหมียวไหม แม้ว่าจะดูแปลกประหลาดแค่ไหน แต่พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นเรื่องปกติของแมวก็ได้ มาทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของแมวทั้ง 10 อย่างกัน ว่าทำไมแมวถึงทำแบบนั้น และจะอยู่ร่วมกับเจ้าเหมียวได้อย่างมีความสุขอย่างไร หรืออาจจะถึงขั้นสนุกไปกับความซุกซนของพวกเขาก็ได้

10 อันดับพฤติกรรมแปลกๆ ของแมว

1.การพลิกตัวไปมา

คุณเคยสังเกตไหมว่าเจ้าเหมียวมักจะพลิกตัวกลิ้งไปมาอยู่กับพื้นเมื่อคุณอยู่ใกล้ ๆ? บางครั้งอาจดูเหมือนว่ามันกำลังเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่หญ้าแมวกระตุ้น แต่จริงๆ แล้ว พฤติกรรมนี้บ่งบอกถึงอะไรมากกว่านั้น เมื่อแมวตัวน้อยของคุณหงายท้องกลิ้งไปมา มันกำลังสื่อสารบางอย่างกับคุณอยู่"

โดยทั่วไปแล้วการที่แมวพลิกตัวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามันรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายในขณะนั้น นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงออกว่ามันต้องการความสนใจจากคุณด้วย การที่แมวกลิ้งตัวไปมาบนพื้นยังเป็นการปล่อยกลิ่นของตัวเองออกมา เพื่อทำเครื่องหมายว่าบริเวณนั้นเป็นของมัน เหมือนกับการบอกว่า "ที่นี่เป็นของฉันนะ"

2.ยกก้นขึ้นสูง

เคยสังเกตไหมว่าเวลาคุณลูบหรือเกาหลังให้เจ้าเหมียว ตัวมันจะยกก้นสูงขึ้นจนดูเหมือนจะลอยได้? นั่นแหละคือท่าที่เรียกว่า "ก้นลิฟต์" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากเลยล่ะ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเจ้าเหมียวรู้สึกดีและชอบที่คุณสัมผัสมากๆ เป็นเหมือนการตอบรับแบบแบ๊ว ๆ ว่า “ถูกใจมากเลยค่ะ ขอลูบอีกนิดนะคะ”

แล้วถ้าเจ้าเหมียวหันก้นมาให้คุณล่ะ? อย่าตกใจไป นี่เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่แสดงถึงความไว้ใจและผูกพันอย่างลึกซึ้งเลยนะ เพราะการยกหางขึ้นแบบนี้เป็นการเชิญชวนให้แมวตัวอื่นเข้ามาดมกลิ่นเพื่อทักทายกัน การที่เจ้าเหมียวทำแบบนี้กับคุณก็เหมือนกับการบอกว่า “เราสนิทกันมากเลยนะ” เหมือนกับการกอดและจูบทักทายเพื่อนคนสนิทนั่นเอง

แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปดมก้นเจ้าเหมียวเพื่อตอบรับ เพียงแค่คุณลูบหัวหรือเกาบริเวณที่เจ้าเหมียวชอบ มันก็จะรู้สึกดีและเข้าใจเจตนาของคุณแล้ว

3.ขับถ่ายนอกกระบะ

ทำไมแมวถึงชอบไปทำธุระนอกกระบะทราย หรือบางครั้งก็ชอบที่จะให้เราเห็น "ผลงานชิ้นเอก" ของพวกมัน แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วแมวจะถูกฝึกให้รู้จักใช้กระบะทรายตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ยังมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้เจ้าเหมียวบางตัวชอบทำลายกฎนี้

เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือ แมวกำลังพยายามสื่อสารอะไรบางอย่างกับเรา การทำธุระนอกกระบะทรายอาจเป็นสัญญาณบอกว่ากระบะทรายสกปรกเกินไป หรืออาจเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจในบางสิ่งบางอย่างในชีวิตประจำวันก็ได้ นอกจากนี้การที่แมวไม่กลบอุจจาระก็อาจเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของอาณาเขตในแบบของพวกมันก็เป็นได้

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือพฤติกรรมนี้อาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพหากแมวมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะหรือลำไส้ การทำธุระนอกกระบะทรายอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการป่วย ดังนั้น หากสังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกติของแมว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียด

4.แมวปิดอาหารที่กินแล้วด้วยอุ้งเท้า

เคยสังเกตไหมว่าเจ้าเหมียวบางตัวชอบคลุมอาหารหลังจากกินไปแล้ว? พฤติกรรมนี้ดูเหมือนจะขัดแย้ง เพราะอาหารก็หมดไปแล้ว ทำไมต้องคลุมอีก? แท้จริงแล้วพฤติกรรมนี้สืบทอดมาจากสัญชาตญาณของบรรพบุรุษแมวป่าที่มักจะเก็บอาหารส่วนที่เหลือไว้ใต้ใบไม้หรือดิน เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อื่นมาแย่งกิน

นอกจากการคลุมอาหารด้วยอุ้งเท้าแล้ว แมวยังอาจแสดงพฤติกรรมอื่นๆ ที่บ่งบอกถึงความต้องการในการควบคุมอาหารของมัน เช่น การข่วนรอบๆ ชามอาหาร หรือการหากระดาษมาคลุมทับ การกระทำเหล่านี้เป็นเหมือนการบอกว่า "นี่เป็นของฉันนะ" หรือ "ฉันกินพอแล้ว"

5.เจ้าเหมียวเลียหรือเคี้ยวถุงพลาสติก

เคยเจอเหตุการณ์ที่กลับบ้านมาแล้วเจอเจ้าเหมียวกำลังเลียหรือเคี้ยวถุงพลาสติกไหม หลายคนคงเคยประสบกับปัญหานี้ และรู้สึกเป็นกังวลอย่างแน่นอน เพราะพลาสติกเป็นสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพของแมวมาก

ทำไมแมวถึงชอบกินพลาสติก?

การงอกของฟัน: ลูกแมวในช่วงที่ฟันกำลังงอก อาจรู้สึกคันในปากและต้องการเคี้ยวอะไรสักอย่างเพื่อบรรเทาอาการ จึงอาจเลือกเคี้ยวพลาสติกที่อยู่ใกล้ตัว
เนื้อสัมผัส: พลาสติกบางชนิดมีเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจสำหรับแมว ทำให้พวกมันติดใจและอยากเคี้ยวเล่น
รสชาติ: ถุงพลาสติกบางชนิดอาจมีกลิ่นหรือรสชาติที่ดึงดูดแมว เช่น กลิ่นอาหารที่ติดอยู่

6.เจ้าเหมียวทำหน้าบูดบึ้ง

เคยสังเกตไหมว่าเวลาเจ้าเหมียวทำหน้าบูดบึ้ง มองเราด้วยสายตาเฉยเมย แล้วขยับริมฝีปากเบา ๆ? นั่นแหละคือท่าทางที่เรียกว่า "Flehmen response" ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจและบ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง

ตอบสนองของ Flehmen response คืออะไร?

จริงๆ แล้วมันเป็นการที่แมวกำลังรับรู้กลิ่นที่ซ่อนอยู่รอบตัว โดยเฉพาะกลิ่นฟีโรโมนที่แมวตัวอื่นปล่อยออกมา เพื่อทำเครื่องหมายอาณาเขต หรือสื่อสารอะไรบางอย่าง การรับรู้กลิ่นนี้จะช่วยให้แมวเข้าใจข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแมวตัวอื่น ๆ ในบริเวณนั้น เช่น เพศ อายุ และสถานะทางสังคม

ทำไมแมวถึงทำท่านี้?

การรับรู้กลิ่น: เมื่อแมวตรวจพบกลิ่นฟีโรโมนที่น่าสนใจ มันจะใช้ลิ้นดุนเพดานปากเพื่อนำกลิ่นเข้าสู่อวัยวะรับกลิ่นที่อยู่บนเพดานปากส่วนบน ทำให้สามารถวิเคราะห์กลิ่นได้อย่างละเอียด
การสื่อสาร: การทำท่านี้เป็นการแสดงออกว่าแมวกำลังสนใจและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากกลิ่น
การทำเครื่องหมายอาณาเขต: แมวตัวผู้มักจะทำท่านี้บ่อยกว่าแมวตัวเมีย เพราะพวกเขาต้องการทำเครื่องหมายอาณาเขตและแสดงความเป็นเจ้าของ

7.แมวขยิบตาช้าๆ

เวลาแมวขยิบตาช้าๆ ให้เรา มันเหมือนกับกำลังจูบเราอยู่เลยใช่ไหม? นั่นเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องค่ะ! การที่แมวกะพริบตาช้าๆ นั้นถือเป็นการสื่อสารที่น่ารักและเป็นมิตรมากเลยทีเดียว เราเรียกพฤติกรรมนี้ว่า "การจูบแบบแมว"

ทำไมแมวถึงขยิบตาช้าๆ ให้เรา?

การขยิบตาช้าๆ ของแมวนั้นเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และไว้วางใจในตัวเราค่ะ มันเหมือนกับการบอกว่า "ฉันรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขที่อยู่กับคุณนะ" นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับแมวอีกด้วย

8.นวดอุ้งเท้าหน้า

ทำไมเจ้าเหมียวถึงชอบนวดอุ้งเท้าหน้า? หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเวลาแมวรู้สึกผ่อนคลาย หรือมีความสุข พวกมันถึงชอบเอาอุ้งเท้าหน้านวดๆ ไปมาบนผ้าห่ม หมอน หรือแม้แต่ตัวเรา การนวดอุ้งเท้าหน้าของแมวนั้นไม่ได้เป็นแค่พฤติกรรมน่ารักๆ เท่านั้น แต่ยังมีความหมายซ่อนอยู่มากมายเลยล่ะ

การนวดอุ้งเท้าหน้า คืออะไร?

การนวดอุ้งเท้าหน้าของแมวนั้นเป็นพฤติกรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว โดยเมื่อลูกแมวดูดนมแม่ พวกมันจะใช้ขาหน้านวดๆ บริเวณเต้านมของแม่ เพื่อกระตุ้นให้มีน้ำนมออกมา พฤติกรรมนี้จึงเหมือนเป็นความทรงจำที่ฝังอยู่ในตัวแมว ทำให้เมื่อโตขึ้น พวกมันจะแสดงพฤติกรรมนี้เมื่อรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ หรือมีความสุข

เหตุผลที่แมวนวดอุ้งเท้าหน้า

ความผ่อนคลาย: การนวดอุ้งเท้าหน้าเป็นเหมือนการปลดปล่อยความรู้สึกผ่อนคลายคล้ายกับมนุษย์ที่ชอบนวดคลายเมื่อย
ความสุข: เมื่อแมวรู้สึกมีความสุข พวกมันจะแสดงออกผ่านพฤติกรรมนี้
การทำเครื่องหมายอาณาเขต: ที่อุ้งเท้าของแมวมีต่อมกลิ่น เมื่อแมวนวดจะปล่อยกลิ่นออกมาทำเครื่องหมายบอกว่าที่นี่คือของฉัน
ความทรงจำในวัยเด็ก: การนวดเป็นพฤติกรรมที่แมวทำมาตั้งแต่เด็ก จึงเป็นเหมือนการย้อนกลับไปสัมผัสความรู้สึกในวัยเด็ก

นอกจากการนวดอุ้งเท้าหน้าแล้ว แมวยังมีย่ำเท้าหลังด้วย ซึ่งมักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ตื่นเต้น เช่น ก่อนและหลังการผสมพันธุ์ หรือขณะกำลังจะล่าเหยื่อ การย่ำเท้าหลังนี้จะช่วยให้แมวเตรียมพร้อมสำหรับการกระโดดหรือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว

9.เจ้าเหมียวชอบวุ่นวายตอนเราใช้โทรศัพท์ หรือคอมพ์พิวเตอร์

เจ้าเหมียวของเราจะอิจฉาเวลาเราใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์หรือเปล่านะ?" หลายคนอาจเคยสงสัยว่าทำไมเวลาเราใช้โทรศัพท์ หรือทำงานอยู่ที่คอมพิวเตอร์ เจ้าเหมียวถึงชอบมาวุ่นวายอยู่ข้างๆ หรือแม้แต่พยายามดึงความสนใจของเราไปที่ตัวมันเอง

เหตุผลก็คือ แมวเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการความสนใจ เมื่อเราให้ความสนใจกับสิ่งอื่นมากกว่าเจ้าเหมียว มันจะรู้สึกเหงาและอิจฉาที่เราไม่ได้ให้ความสนใจกับมันอย่างเต็มที่

จะแก้ปัญหานี้อย่างไร?

เพิ่มเวลาเล่นกับแมว: จัดสรรเวลาให้แมวอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเล่นเกมส์กับแมว การไล่ล่าขนนก หรือการใช้เลเซอร์พอยเตอร์ล่อให้แมววิ่งเล่น
ให้ของเล่นที่น่าสนใจ: เลือกซื้อของเล่นที่สามารถโต้ตอบกับแมวได้ เช่น ของเล่นที่บรรจุอาหาร หรือของเล่นที่เคลื่อนไหวได้ เพื่อกระตุ้นให้แมวสนใจและมีกิจกรรมทำ
สร้างพื้นที่ส่วนตัว: จัดเตรียมพื้นที่ที่เป็นของแมวโดยเฉพาะ เช่น บ้านแมว หรือที่นอนที่อบอุ่น เพื่อให้แมวมีพื้นที่พักผ่อนและเล่นได้ตามต้องการ
ให้ความสนใจกับแมวอย่างเต็มที่: เมื่อเล่นกับแมว ควรให้ความสนใจกับมันอย่างเต็มที่ ไม่เล่นโทรศัพท์ไปด้วย

การให้ความสนใจกับแมวอย่างสม่ำเสมอและจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม จะช่วยให้แมวรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายมากขึ้น และลดพฤติกรรมรบกวนเวลาเราทำงานได้

10.เจ้าเหมียวมองออกไปนอกหน้าต่าง

เคยสังเกตไหมว่าเวลาเจ้าเหมียวมองออกไปนอกหน้าต่าง มักจะส่งเสียงร้องหรือพูดพล่อยๆ นั่นเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจของแมวเลยค่ะ เพราะเสียงร้องเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความเบื่อหน่าย แต่ยังบ่งบอกถึงความรู้สึกและสัญชาตญาณของพวกมันอีกด้วย

ทำไมแมวถึงชอบส่งเสียงร้องเวลาเห็นนกหรือสัตว์ตัวเล็กๆ

สัญชาตญาณนักล่า: แมวเป็นสัตว์นักล่าตามธรรมชาติ การได้เห็นเหยื่ออย่างนกหรือหนู ทำให้พวกมันตื่นเต้นและแสดงออกผ่านเสียงร้อง
การสื่อสาร: เสียงร้องเหล่านี้เป็นการสื่อสารกับตัวของเอง หรืออาจเป็นการเรียกเพื่อนแมวตัวอื่นมาช่วยล่าเหยื่อ
การปลดปล่อยพลังงาน: การได้ส่งเสียงร้องจะช่วยให้แมวรู้สึกดีและปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่ภายใน

เสียงร้องของแมวแต่ละเสียงมีความหมายต่างกัน

เสียงร้องแหลมสูง: มักเกิดขึ้นเมื่อแมวตื่นเต้นและต้องการให้เราสนใจ
เสียงกระดิกลิ้น: เป็นการแสดงออกถึงความพึงพอใจ หรือความสุข
เสียงฟู่: เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ หรือความกลัว

เมื่อมีแมวหลายตัวในบ้าน คุณอาจสังเกตเห็นว่าพวกมันจะส่งเสียงร้องคุยกันเอง ซึ่งเป็นการสื่อสารถึงกันและกัน อาจจะเป็นการวางแผนการล่า หรือเพียงแค่การทักทายกัน