3 วิธีลด "พุง" อย่างถูกต้อง และยั่งยืน

หลายวิธีที่คนอาจเข้าใจผิดว่าช่วยลดพุงได้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ ลองมาดูวิธีลดพุงที่แพทย์แนะนำกัน

3 วิธีลด "พุง" อย่างถูกต้อง และยั่งยืน

“พุง” เป็นอวัยวะที่ไม่มีใครต้องการ เพราะนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพ รูปร่างไม่สวยงามแล้ว การมีพุงยังเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเสี่ยงโรคร้ายบางอย่างอยู่ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันพอกตับ และอื่นๆ

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ให้ข้อมูลเอาไว้ในเพจ Pleasehealth Books ถึงเรื่องของพุง และเคล็ดลับการลดพุงอย่างถาวรง่ายๆ มาฝากกัน

“พุง” ในทางการแพทย์ เกิดจากไขมันในช่องท้องที่เรียกว่า Visceral Fat

Visceral Fat คือไขมันที่กองอยู่ในช่องท้อง สังเกตเห็นได้ว่ามีหรือไม่ จากขนาดของพุงหรือรอบเอว แต่ไม่สามารถหยิบจับสัมผัสได้ ต่างกับ Subcutaneous Fat หรือไขมันใต้ชั้นผิว ที่เราสามารถจับหนีบขึ้นมาด้วยความเอ็นดูได้

แค่ไหนถึงเรียกว่ามี “พุง”

ไขมันในช่องท้องจะประเมินได้จากการวัดรอบเอว สูตรทั่วไปคือในผู้ชายไม่ควรจะเกิน 90 ซม. ส่วนในผู้หญิงไม่ควรจะเกิน 80 ซม. หรือจะใช้สูตรนำส่วนสูงมาหารสอง ถ้ารอบเอวเกินกว่าค่าที่ได้ จะจัดว่ามีพุง

พุง สัญญาณอันตรายของโรคร้าย

ไขมันในช่องท้องนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพ เพราะเป็นไขมันที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดสมอง เพราะเป็นไขมันที่ไม่ได้นอนนิ่งเฉยๆ แต่กลับผลิตสารก่อการอักเสบในระดับโมเลกุล เช่น IL-6, TNF-alpha และอื่นๆ จึงส่งผลเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ

สาเหตุที่ทำให้เกิดพุง

จุดก่อกำเนิดหลักของพุง เกิดจากแคลอรี่จากอาหารที่มากเกินพอดี โดยเฉพาะแคลอรี่จากแอลกอฮอล์ น้ำตาล และไขมันทรานส์ ที่ส่งผลต่อการสะสมของไขมันที่พุง บวกกับปัจจัยเสริมคือ อายุที่มากขึ้น เพศชาย (จะลงพุงง่ายกว่าหญิง) ฮอร์โมนต่างๆ โดยเฉพาะฮอร์โมนเครียดที่ส่งผลให้ไขมันไปสะสมที่พุงง่ายขึ้น โดยไม่ว่าพุงจะมีจุดก่อกำเนิดหลักจากปัจจัยใด รูปทรงของพุง และแนวทางการแก้ไขเพื่อบอกลาก็ไม่ต่างกัน

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดพุง

มีความเชื่อผิดๆ ว่าการลดพุงมีทางลัด แต่จริงๆ แล้วไม่พบว่าวิธีเหล่านี้ช่วยลดไขมันในช่องท้องได้ เช่น 

  • วิตามิน หรืออาหารเสริม 
  • ทำดีท็อกซ์ 
  • เกร็งหน้าท้องบ่อยๆ
  • การดูดไขมันนั้น จะเป็นการดูดไขมันที่ชั้นผิว ไม่ได้ดูดเข้าไปในช่องท้องแต่อย่างใด
  • การออกกำลังกายด้วยการซิทอัพ ที่หลายคนเข้าใจว่าช่วยลดพุง จริงๆ แล้วแค่เป็นการเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อท้อง แต่ไม่ได้ทำให้เกิดการเผาผลาญของไขมันในช่องท้อง

วิธีลดพุงอย่างถูกต้อง และยั่งยืน 

วิธีที่ถูกต้องในการบอกลาพุง มีหลักง่ายๆ ดังนี้

  1. ปรับการรับประทานอาหารให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย พยายามเลี่ยงอาหารก่อพุง โดยเฉพาะ น้ำตาล น้ำหวาน น้ำอัดลม แป้งขัดขาว แอลกอฮอล์ อาหารทอด หากเลี่ยงไม่ได้ให้พยายามลด หรือหาข้อตกลงกับตัวเองที่พอจะทำได้ เช่น เปลี่ยนจากดื่มเบียร์ปกติ เป็นไลท์เบียร์ หรือ ตั้งลิมิทในการรับประทานของหวานให้ไม่เกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  2. การออกกำลังที่มีส่วนช่วยลดพุง คือ การออกกำลังแบบแอโรบิก หรือ การออกกำลังที่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างต่อเนื่องและยาวนาน พอที่จะเกิดการเผาผลาญ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ จักรยาน โดยควรตั้งเป้าการออกให้ได้ 150-300 นาทีต่อสัปดาห์
  3. ปรับสมดุลชีวิตให้ไม่เครียดเกินไป และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเครียดเรื้อรังและการอดหลับอดนอน จะส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดสูง ซึ่งฮอร์โมนเครียดนี้จะส่งผลต่อการสะสมของไขมันในช่องท้อง

แนะนำให้ตั้งเป้าในการลดพุงง่ายๆ ด้วยการวัดรอบเอวในปัจจุบัน และค่อยๆ ปรับไลฟ์สไตล์ตามที่แนะนำไป พุงจะค่อยๆ หาย ความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ จะลดลง และสุขภาพจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

คุณกำลังดู: 3 วิธีลด "พุง" อย่างถูกต้อง และยั่งยืน

หมวดหมู่: สุขภาพ

แชร์ข่าว