ชวน "ก้อย อรัชพร" มาทบทวนเส้นทางชีวิต 28 ปี อีกครั้ง กับ 28 คำถาม ที่จะทำให้ได้รู้จักเธอมากขึ้น
ไม่ว่าจะรู้จัก "ก้อย อรัชพร" จากบทบาทของการเป็นนักแสดง ยูทูเบอร์ หรือคนเขียนบท ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ เธอกลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกสปอตไลต์ส่องอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะรู้จัก ก้อย-อรัชพร โภคินภากร จากบทบาทของการเป็นนักแสดง ยูทูเบอร์ หรือคนเขียนบท ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ เธอกลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกสปอตไลต์ส่องอยู่เสมอ
นับตั้งแต่เริ่มปรากฏตัวในซีรีส์ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น เมื่อปี 2557 เธอก็เติบโตบนเส้นทางสายบันเทิงมาเรื่อยๆ ตลอด 9 ปี ผ่านทั้งความสุข ความทุกข์ ความสำเร็จ ความผิดหวัง ดราม่า และคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนกระทั่งสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในวันนี้
เช่นเดียวกับปีนี้ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่เธอได้เขียนหนังสือเล่มแรกในชีวิต TWENTIES’ ACHE ว่าด้วยเรื่องสั้นจากจินตนาการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเขียนบันทึกประจำวันของเธอ
แน่นอนว่าเราอยากชวน ก้อย อรัชพร มาทบทวนเส้นทางชีวิต 28 ปี อีกครั้ง กับคำถาม ที่จะทำให้ได้รู้จักเธอมากขึ้น
ครั้งไหนที่รู้สึกว่าตัวเองก้าวผ่านสู่ความเป็นมืออาชีพในการแสดงแล้ว
เราอาจจะไม่สามารถนิยามว่าเรามืออาชีพหรือยัง
แต่มีจุดที่คิดว่าพอจะเข้าใกล้คำว่าการแสดงมากที่สุดครั้งแรก คือ
ตอนเล่นหนังสั้นให้เพื่อน เป็นการที่เราอยากรู้จักตัวละครนั้นจริงๆ
เพราะเพื่อนเขียนบทเป็นตัวเพื่อนเอง เราอยากรู้ว่าจริงๆ
เป็นคนนิสัยอย่างไร แล้วพอได้รู้ก็รู้สึกว่า
การแสดงนำพาเรามาสู่จุดที่ทำให้เราเข้าใจมนุษย์คนหนึ่ง
จากตอนแรกที่เราไม่ชอบและไม่เข้าใจ จนทำให้เราคิดว่าพวกนี้มีมิติ
และรู้สึกโอเคกับพวกเขาขึ้น
เคยเจอคอมเมนต์ชาวเน็ตแย่ๆ ไหม เรื่องอะไร
และรับมืออย่างไร
การแสดงแย่ๆ จะไม่ขนาดนั้น แต่จะเป็นการติเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เช่น
‘อีนี่ ไม่สวยเลย อีนี่ ทำไมถึงได้เล่นอย่างนี้’
ครั้งแรกที่เราเห็นก็จะรู้สึกว่า เลยเหรอ
แล้วหน้าเราจะเปลี่ยนอย่างไรได้
คือต้องไปศัลยกรรมทั้งหน้าเพื่อให้สวยในแบบพิมพ์นิยมเหรอ
หรือสวยในแบบที่เขาต้องการ มันทำสิ่งนั้นไม่ได้
สุดท้ายเราก็ต้องจัดการตัวเอง ถ้าเราไม่มั่นใจในสิ่งที่เรามี
มันก็ไปต่อไม่ได้
ความสวยในนิยามของเราคือ การนับถือข้างในของตัวเอง คือความมั่นใจ ความพอใจ การที่เราเห็นตัวเองแล้วเราชอบและภูมิใจอะไรในตัวเรา และเมื่อเรามั่นใจว่าเรามีดีแบบนี้ นั่นคือความสวยที่ถูกส่งออกมาที่ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว แต่คือทัศนคติ
28 ปีที่ผ่านมาในชีวิต
ครั้งไหนที่ทุกข์ใจมากที่สุด
ร้องไห้หนักที่สุดคือ O-Negative
แต่ก่อนเราจะมีความรู้สึกว่าต้องทำให้ได้
คือตัวละครชมพู่ที่เราเล่นเป็นตัวละครที่ร้องไห้ตลอดเวลา
มันชิลมากกับการที่เราอินไปกับตอนนั้น
แต่สักพักเราเริ่มคาดหวังกับตัวเอง เราต้องทำมันได้ทุกครั้ง
พอเริ่มมีความคิดนี้ เราจะเริ่มไม่อยู่กับตรงนั้นแล้ว
พอวันที่เราทำไม่ได้ แล้วมองไปเห็นนักแสดงคนอื่น คนทั้งกอง
ทุกคนรอเราเป็นชั่วโมง มันเจ็บปวดมาก จนได้พูดกับตัวเองว่า
เราทำมันไม่ได้จริงๆ เมื่อนั้นถึงทำได้ แต่มันทรมานมาก
กลับบ้านไปก็ยังเจ็บปวด บอกแม่ว่า เล่นไม่ไหวแล้ว
ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่จัดการตัวเองไม่ได้มากที่สุด
หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเวลาร้องไห้ต้องฮึบ แต่เวลาเราอยู่บ้านคือร้องถล่มทลาย ให้มันระบายออกมา หลังจากนั้นเราจะพอเห็นภาพว่าควรคุยกับใครต่อ
อยู่วงการบันเทิงมา 9 ปี สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
ของวงการนี้คืออะไร
ชอบมนุษย์ที่เจอ ชอบสังคมรายล้อม อย่างที่บอกว่าโชคดี
สิ่งที่ไม่ชอบคือเรารู้สึกว่ามันไปได้ไกลกว่านี้ เช่น
เรื่องการเซ็นเซอร์
ความจริงมันมีอะไรหลายอย่างที่เป็นประเด็นที่ถ้าเรากล้าปล่อยให้คนวิพากษ์วิจารณ์
มันก็จะเบ่งบาน
อีกอย่างคือเรื่องคนเขียนบท เราว่าคนเขียนบทสำคัญ ขอสู้ให้คนเขียนบทเรื่องชั่วโมงการทำงาน รวมถึงค่าตอบแทน การสนับสนุนให้อาชีพนี้ยั่งยืนและแข็งแรง ซึ่งเราว่ามันยังไม่เพียงพอ
ถ้ามีอำนาจ สิ่งอยาก ‘เปลี่ยน’
ในวงการบันเทิงคือ
น่าจะเป็นเรื่องการเซ็นเซอร์
แต่เราพูดในมิติที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดกับเซ็นเซอร์ได้ขนาดนั้น
แค่รู้สึกว่าอาชีพต่างๆ ในประเทศไทยไม่ได้ถูกยกมา
ยังไม่มีหนังเรื่องไหนทำเกี่ยวกับนักการเมืองเลย ทำไมถึงไม่มี
ทั้งที่ต่างประเทศง่ายมาก หรือพูดตรงๆ
ว่าเรานำเสนอเรื่องราชวงศ์ในมิติไหนได้บ้าง
เราคิดว่าการเปิดเสรีภาพทางความคิดออก น่าจะทำให้แต่ละคนกล้าที่จะลงมือสร้างสรรค์งานมากขึ้น เพราะบางทีเขาอยากทำ แต่ก็คิดว่าจะผิดตรงไหนไหม
ถ้ามีอำนาจ สิ่งที่อยาก ‘เพิ่ม’
ในวงการบันเทิงคือ
เรื่องคนเขียนบท อย่างที่เราบอกเสมอว่า
บทคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของการแสดง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักแสดงที่เก่งแค่ไหน ถ้าบทไม่เมกเซนส์ ไม่เสริมส่ง
มันก็ไม่เวิร์ก
สิ่งที่อยากเพิ่มคือทำอย่างไรก็ได้ให้อาชีพนี้แข็งแรงและยั่งยืน
คุณกำลังดู: ชวน "ก้อย อรัชพร" มาทบทวนเส้นทางชีวิต 28 ปี อีกครั้ง กับ 28 คำถาม ที่จะทำให้ได้รู้จักเธอมากขึ้น
หมวดหมู่: ผู้หญิง