จิตแพทย์โพสต์ชื่นชม "โอปอล สุชาตา" หลังตอบคำถามได้ทัชใจเหล่าแฟนนางงาม

"โอปอล สุชาตา" หรือ "สุชาตา ช่วงศรี" สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 บนเวทีการประกวด Miss Universe 2024

จิตแพทย์โพสต์ชื่นชม "โอปอล สุชาตา" หลังตอบคำถามได้ทัชใจเหล่าแฟนนางงาม

เชื่อว่าเหล่าแฟนนางงาม โดยเฉพาะแฟนนางงามชาวไทยคงทราบกันดีแล้วว่า ตัวแทนสาวไทย "โอปอล สุชาตา" หรือ "สุชาตา ช่วงศรี" สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 บนเวทีการประกวด Miss Universe 2024 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของแฟนนางงามชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากความสวย ความสามารถของโอปอลแล้ว ในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย การตอบคำถามของโอปอลก็กลายเป็นไฮไลท์สำคัญ ซึ่งต่อการตอบคำถามดังกล่าวนั้นทำให้ทางเพจคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎาถึงกับโพสต์ชื่นชม พร้อมอธิบายคำว่า Empathy โดยมีรายละเอียดว่า



">>จากการตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้ายที่ว่า  “คุณสมบัติอะไร ที่จะทำให้เป็นผู้นำประสบความสำเร็จ?”  โดยโอปอล สุชาตา ช่วงศรี ตอบได้ดีมากๆว่า “ผู้นำมีความสำเร็จต้องมีความเห็นใจผู้อื่น ไม่ว่าคุณจะเก่งขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้วคุณต้องมีความเห็นใจผู้อื่น เพื่อเข้าใจคนอื่น แคร์ความเป็นอยู่ของผู้คน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผู้นำ แต่ต้องเป็นทุกคน นั่นคือสิ่งที่จะทำให้คนเป็นหนึ่งเดียวกันได้”
โดยมีคำศํพท์สำคัญที่หมอไม่คิดว่าจะได้ยิน นั่นคือ คำว่า * Empathy * ซึ่งคนทีทื่จะใช้คำนี้ได้นั้น ต้องมีความเข้าใจและคุ้นเคยกับงานด้านจิตวิทยาในระดับหนึ่งเลย

Empathy คืออะไร?
*Empathy* คือความสามารถในการเข้าใจและรับรู้ถึงอารมณ์ ความคิด และมุมมองของผู้อื่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามงานวิจัย:
1. Cognitive Empathy: การเข้าใจมุมมองของผู้อื่นโดยใช้เหตุผล เช่น การเข้าใจว่าทำไมคนๆ นั้นถึงรู้สึกหรือแสดงพฤติกรรมแบบนั้น
2. Emotional Empathy: การสัมผัสหรือรู้สึกตามอารมณ์ของผู้อื่น เช่น การรู้สึกเศร้าตามเมื่อเห็นคนอื่นร้องไห้
3. Compassionate Empathy: ความเข้าใจและมีแรงผลักดันที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเห็นพวกเขาต้องการการช่วยเหลือ

Empathy ไม่ใช่แค่คุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำ แต่ยังเป็นพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทุกมิติ ตั้งแต่ครอบครัว เพื่อน ไปจนถึงองค์กร

ประโยชน์ของ Empathy
1. พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
การมี Empathy ช่วยให้เราสามารถสื่อสารและเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ดีขึ้น ลดความขัดแย้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
2. ลดความเครียดในที่ทำงาน
ในองค์กรที่ผู้นำมี Empathy จะช่วยลดความกดดันในที่ทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างทีมที่มีความสามัคคี
3. ส่งเสริมสุขภาพจิตของทั้งผู้ให้และผู้รับ
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนแสดงให้เห็นว่า Empathy ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด (*cortisol*) และเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตของผู้ที่แสดง Empathy
4. สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง
Empathy ช่วยให้เรามองเห็นความต้องการของคนในสังคม เป็นรากฐานของการช่วยเหลือและการอยู่ร่วมกัน

วิธีพัฒนา Empathy
1. ฝึกฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening): ให้ความสนใจอย่างแท้จริงกับสิ่งที่คนอื่นพูด โดยไม่ตัดสินหรือตอบโต้ทันที
2. ตั้งคำถามเชิงบวก: การถามว่า "คุณรู้สึกยังไง?" หรือ "ฉันช่วยอะไรได้บ้าง?" ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้แสดงความรู้สึก
3. สร้างประสบการณ์ร่วม: การลองทำกิจกรรมในมุมมองของคนอื่นช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดอคติ
4. ฝึกการมองโลกในมุมของผู้อื่น (Perspective-Taking): ลองตั้งคำถามกับตัวเอง เช่น "ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะรู้สึกยังไง?"
5. ฝึกการแสดงออกทางอารมณ์: เช่น การกล่าวคำปลอบใจหรือให้กำลังใจเมื่อคนรอบตัวรู้สึกแย่

คำเตือนในการใช้ Empathy
Empathy ควรถูกใช้ด้วยความสมดุล เพราะการใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นมากเกินไปโดยไม่ดูแลตนเอง อาจนำไปสู่ภาวะเหนื่อยล้าทางอารมณ์ (*emotional burnout*)

By…คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา

อ้างอิง
- Goleman, D. (1995). *Emotional Intelligence: Why It Can Matter More Than IQ*.
- Batson, C. D., et al. (1997). "Empathy and Altruism". *Annual Review of Psychology*.
- Decety, J., & Jackson, P. L. (2006). "The Functional Architecture of Human Empathy". Behavioral and Cognitive Neuroscience Reviews

 

คุณกำลังดู: จิตแพทย์โพสต์ชื่นชม "โอปอล สุชาตา" หลังตอบคำถามได้ทัชใจเหล่าแฟนนางงาม

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด