“แหวนแหวน”แชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม รักษากว่า 5 ปี
“แหวนแหวน”แชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม รักษาตัวนานกว่า 5 ปี เปิดใจหมดเงินหลายล้าน อยากมีลูก แพทย์คุมเข้ม หวั่นเสี่ยงมะเร็งซ้ำ
“แหวนแหวน” ร่วมงาน
“ความก้าวหน้าในการรักษามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นที่ที่มีผลบวกต่อตัวรับฮอร์โมน
(hormone receptor, HR) และผลลบต่อตัวรับชนิด human epidermal growth
factor receptor (HER2)”
ผ่านไปแล้วสำหรับงานแถลงข่าว
“ความก้าวหน้าในการรักษามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นที่ที่มีผลบวกต่อตัวรับฮอร์โมน
(hormone receptor, HR) และผลลบต่อตัวรับชนิด human epidermal growth
factor receptor (HER2)” ที่จัดขึ้น ณ ห้อง Ballroom 3
โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ โดย พญ.ชาฮีน่า ดาวูด
แพทย์ผู้เชียวชาญและที่ปรึกษาด้านโรคมะเร็ง จาก Mediclinic Middle
East ประเทศ UAE ร่วมด้วย ศ.ดร.นพ.พรชัย
โอเจริญรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม
หัวหน้าศูนย์เต้านม โรงพยาบาลเมดพาร์ค และศัลยแพทย์ด้านมะเร็งเต้านม
โรงพยาบาลเจ้าพระยา โดยมี แหวนแหวน- ปวริศา เพ็ญชาติ
รับหน้าที่พิธีกร พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ตรง
หลังเคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และใช้เวลารักษาตัวมานานกว่า 5 ปี
“โรคมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทย
จากข้อมูลในปี พ.ศ.2563 พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ราว 18,000 คนต่อปี
หรือคิดเป็น 49 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมราว 4,800
คน หรือคิดเป็น 13 คนต่อวัน ซึ่งคาดการณ์ว่ในปี พ.ศ.2566
จะพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ราว 22,000 คน อย่างไรก็ตาม
โรคมะเร็งเต้านมสามารถตรวจวินิจฉัยพบได้ในระยะเริ่มต้นถึงร้อยละ
90 ทั้งนี้ร้อยละ 70 มักจะเป็นชนิดที่มีผลบวกต่อตัวรับฮอร์โมน
การรักษามะเร็งเต้านมระยะแรก ประกอบไปด้วยการผ่าตัดก้อนเนื้อออก
โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
ร่วมกับการรักษาเสริมตามปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละคน เช่น
ระยะของโรค ข้อมูลทางชีวโมเลกุล
ตามการแสดงออกของยีนผิดปกติในเซลล์มะเร็ง
ระดับของโปรตีนที่ผิดปกติบางชนิดในเซลล์มะเร็ง
รวมทั้งปัจจัยทางร่างกายของผู้ป่วยและการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่น ๆ
ร่วมด้วย ซึ่งการรักษามักจะประกอบไปด้วย การรักษาด้วยยาฮอร์โมน
ยาเคมีบำบัด รังสีรักษา และการรักษาด้วยยาพุ่งเป้า ( Targeted Therapy
)
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาถึงความเสี่ยงของผู้ป่วยรายบุคคล
แหวนแหวน- ปวริศา
เพ็ญชาติ เล่าประสบการณ์ตรงว่า
“แหวนเป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์มะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุแค่ 23
ปี ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีที่เจอเร็วมากๆและรักษาได้ทันท่วงที
จนทุกวันนี้พูดได้ว่าหายแล้ว 99.99%
ทำให้รู้เลยว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามาก
และเจอในคนอายุเด็กลงทุกวัน อยากบอกผู้หญิงทุก ๆ
คนว่าอย่ากลัวการตรวจมะเร็งเต้านม อย่ามองเป็นเรื่องที่ไกลตัว
เพราะถ้าคุณยิ่งเจอช้า การรักษายิ่งยากและโอกาสในการหายน้อยลง
เดี๋ยวมะเร็งเต้านมก็เหมือนเป็นหวัด สามารถรักษาให้หายขาดได้
แม้กระทั้งเป็นขั้น 3 ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ถึง 74% สมัย 20
ปีที่แล้ว ตอนที่แหวนตรวจเจอ คือเหมือนโลกแตก
รู้สึกว่าเราจะตายแล้วเหรอ
ตอนนั้นการเป็นมะเร็งเต้านมเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก นอกจากการกลัวตาย
ยังเสียความมั่นใจด้วยที่ต้องโดนตัดหน้าอก โดนตัดไปเกือบเท่าลูกเทนนิส
ก็มีความกังวลว่าหน้าอกเราจะเป็นยังไง มันจะเหมือนเดิมไหม
สรุปก็คือไม่ได้เสียทรงไปมาก ทุกวันนี้ก็อยู่กับมันได้
กลัวจะกลับมาเป็นอีก ก็คอยเช็คอัปมันตลอดปีละครั้ง
ยิ่งเราจะทำ IVF
ก็ต้องตรวจเช็คเยอะ
คุณหมอที่ทำลูกเขาก็จะซีเรียสเรื่องของการใช้ฮอร์โมน
เพราะฮอร์โมนคือตัวกระตุ้นมะเร็ง อย่างแหวนจะทาครีมอะไร ทานอะไร
ฉีดฮอร์โมนอะไรต้องระวังหมด เพราะมีผลกับมะเร็งเต้านมหมด
เวลาจะกระตุ้นไข่ทีต้องมีทีมหมอมานั่งปรึกษากันเลย
ก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ เราตั้งใจ อยากได้มีน้อง 2 คน
แต่ตอนนี้เอาให้ได้ 1 คนก่อน
เราอยู่กับกระบวนการนี้มานานแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวคงจะต้องลองอีกรอบ
ทั้งที่ประเทศไทยทั้งที่ต่างประเทศ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงจะถอดใจแล้ว
จะพยายามอีกซักตั้งนึง ก็ปรึกษากับคุณหมอทั้งคุณหมอทำลูก
คุณหมอมะเร็งเต้านม เพราะคุณหมอทำลูกก็ไม่กล้าให้ฮอร์โมนเยอะ
มันเสี่ยง อายุเท่านี้แล้ว มันก็ต้องอัดกันสุดตัว
เรียกว่าเป็นเคสพิเศษเลยสำหรับการทำIVF
คุณพ่อก็บอกขึ้นมาแล้วว่าชีวิตแลกชีวิตไม่เอานะ
ได้หลานแต่ลูกเป็นมะเร็งเต้านมอีกรอบ ก็คงไม่ไหว ส่วนคุณสามี
เขาก็กลัวเราเป็นมะเร็งอีก ลูกก็อยากมีแหละ
ครอบครัวไม่มีฝ่ายไหนกดดันเลย เพราะเขาก็รู้ว่าเราพยายาม
ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เราก็พยายามที่สุดแล้ว ที่สำคัญลูกจะมีหรือไม่มี
ไม่เป็นไร แต่เราต้องไม่ตาย ต้องมีเราอยู่ต่อไป เท่าที่ฟังโอกาสมันก็
50:50 เพื่อน ๆ ก็ให้กำลังใจกันหมด วิทยาศาสตร์เราก็สู้มาสุดตัว
สงสัยคงต้องไปสายมูบ้าง ตอนนี้ค่าใช้จ่ายหมดไปหลายล้านแล้ว
ยังพูดกับพ่อแม่เลยว่าหลายล้านก็ส่วนนึงนะ แต่ร่างกายเรา
ฮอร์โมนที่เทคเข้าไปนี่ก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรที่ไปสะสมไว้ข้างในรึเปล่า
คือที่ผ่านมาเราต้องตรวจแล้วตรวจอีก วนๆไปจนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว
โดนเยอะเหลือเกิน ก็เข้าใจคุณหมอว่าต้องเอาความปลอดภัยขอเราไว้ก่อน
ไม่อยากให้มีผลข้างเคียงอะไรในอนาคต”
คุณกำลังดู: “แหวนแหวน”แชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม รักษากว่า 5 ปี
หมวดหมู่: ผู้หญิง