เมื่อ "คริสติน่า อากีล่าร์" ตัวมัม Queen of Dance เมืองไทย เปิดใจเรื่องความรัก!
"คริสติน่า อากีล่าร์" เป็นคนรักใครยาก เพราะโลกส่วนตัวสูง แต่ไม่ได้ปิดใจยังเชื่อในความรัก
เมื่อตัวแม่ Queen of Dance เมืองไทย "คริสติน่า
อากีล่าร์" มาเปิดใจในรายการ WOODY FM
ถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่ก่อนก้าวเข้าสู่วงการจนถึงปัจจุบัน
เผยเป็นคนรักใครยาก ผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเคยรักแค่คนเดียว
เพราะมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง
แต่ก็ไม่ได้ปิดใจยังเชื่อในความรักอยู่
พี่ลองทำเกือบทุกทางแล้วหรือยังในวงการ
?
ติ๊นา : แอคติ้งยัง เอาจริงๆนะ
เริ่มต้นตอนที่ออกอัลบั้มใหม่ๆ
มีคนติดต่อเยอะมากเรื่องเล่นหนังเล่นละคร
แต่ว่าไม่มั่นใจตั้งแต่เด็กจนโตเราไม่เคยนึกถึงเรื่องการแสดง
เราแค่ร้องเพลงอย่างเดียวก็มีความกลัวว่าถ้าสมมุติฉันไปเล่นหนังหรือเล่นละคร
ถ้าเกิดมันเล่นไม่ดีมันจะส่งผลให้กับอาชีพนักร้องหรือเปล่าก็เลยไม่กล้าอะไรอย่างงี้
ขอย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยยังเด็ก
ครอบครัวพี่ตั้งแต่เป็นยังไงบ้าง ?
ติ๊นา
: ก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นนะ เพราะว่าตั้งแต่เด็กเลย
คือคุณพ่อเป็นนักดนตรีอยู่แล้วใช่ไหมก็ทำงานกลางคืน
แต่ทุกเช้าพ่อไปส่งไปโรงเรียน พ่อจะตื่นไปส่งเราแล้วกลับมานอนต่อ
ส่วนตอนเที่ยงแม่ก็ไปรับจากที่ทำงาน ตกเย็นแม่ก็ทำกับข้าว
พ่อแม่จะเป็นยังงี้ ดูแลเราแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เราเรียนหนังสือจนเราจบ
แต่ว่าต้องบอกเลยว่าไม่มีครอบครัวไหนที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
โดยภาพรวมก็โอเคแต่ว่าเราก็เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันนะ
เชื่อว่าเป็นอย่างงี้ทุกครอบครัว
ทะเลาะกันแบบเรื่อยๆ ไหม หมายถึงว่ารักๆเลิกๆ ?
ติ๊นา : ก็ไม่ใช่ทุกวันนะ
แต่ว่าก็มีด้วยความที่คุณพ่อเป็นนักดนตรีใช่ไหม ทำงานกลางคืน
แน่นอนจะต้องมีสาวๆ มาฟังพ่อมาอะไร และด้วยความที่มีสาวๆเยอะมาฟังพ่อ
คุณพ่อก็กลายเป็นผู้ชายที่ขี้หึงมาก แม่พี่เป็นคนที่สวยมากนะ
พ่อพี่ยังบอกเลยว่าพวกยูตอนอายุเท่านี้สู้แม่ยูไม่ได้ ก็โอเค
ก็อาจจะมีผู้ชายอยากจะมาจีบหรือว่าอะไรอย่างงี้ขนาดมีลูกแล้วนะ
พ่อก็แบบขี้หึงมาก คนเจ้าชู้ก็ขี้หึงนึกออกไหม
มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
แล้วก็เกิดมีปากเสียงกัน ?
ติ๊นา : ตอนนั้นเราก็อายุประมาณ 20 กว่า
กลับมาแล้วก็ทะเลาะอะไรกันไม่รู้แล้วเรารำคาญ พี่เดินไปคุยกับพ่อเลย
ปะป๊าไอถามยูจริงๆ เถอะ ยูยังรักหม่าม๊าหรือเปล่า ถ้ายูไม่รักนะ
ยูเลิกกันเลยนะ อย่าไปคิดเลยว่ายูทนอยู่เพื่อเรา วันหนึ่งเราโตขึ้น
เราจะต้องมีชีวิตของเราเอง คือในมุมของพี่อยากให้พ่อแม่มีความสุข
เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันนึกออกไหม
แต่ว่าเขาทำหน้าที่ของเขาแค่นั้น เขาก็อึ้ง พ่อเงียบเลย เราก็บอกว่า
ไอไม่ชอบเห็นทะเลาะกัน ถ้ายูอยู่ด้วยกันไม่มีความสุข เลิกกันเถอะ
เพราะพี่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งนะทุกคนควรจะมีความสุข
ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือใครก็แล้วแต่
การที่มาทนทุกข์เพราะลูกอะไรอย่างนี้ ซึ่งมันยังเป็นเยอะนะทุกวันนี้
พ่อแม่กลัวลูกมีปัญหา
แต่พี่เชื่อว่าเด็กมีปัญหาเพราะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันมากกว่า
สู้ไม่อยู่ด้วยกันดีกว่าแต่ว่าทำหน้าที่ตัวเองอย่างสมบูรณ์ไม่บกพร่อง
สำหรับตัวพี่เองไม่ได้แต่งงาน
ที่ผ่านมาในความสัมพันธ์ของพี่ติ๊นาเราไม่ค่อยเห็นข่าวและไม่ค่อยเปิดตัวอะไรใดๆ
ก่อนหน้านี้พี่ก็มีคบกับใครนานไหม ?
ติ๊นา
: พี่เป็นผู้หญิงปกติเหมือนทุกคน พี่ไม่ใช่ว่าไม่เคยคบใคร
พี่เคยคบคน พี่เคยเลิก เคยคบแล้วโอเคถ้าไม่เข้ากันฉันก็ไม่ทน
ฉันก็ไม่อยู่เพราะว่าอย่างที่บอกทุกคนต้องมีความสุข รวมถึงตัวพี่
พี่อยากมีความสุข พี่จะไม่ทนกับอะไรที่จะมาทำให้พี่มีความทุกข์
อย่างเช่นผู้ชายคนหนึ่งถ้าเรารู้สึกว่า เรารักเขามากอย่างงี้
ซึ่งพี่เป็นคนที่รักคนยากมากนะ
พี่รักคนยาก ?
ติ๊นา : พี่บอกได้เลยว่าชีวิตพี่ คนที่พี่เคยรัก
ที่เรียกคำว่ารัก มีแค่คนสองคน เอาจริงๆ แค่คนเดียวด้วยซ้ำไป
ตั้งแต่เกิดมาเลย พี่มีความรู้สึกว่าชอบคนยากมาก รักยากมาก
แต่ว่าถ้าพี่รัก พี่จะคิดอย่างสมมุติ พอเราคบใครคนหนึ่งปุ๊บ
เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันไม่เข้าใจ
มันจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เราหงุดหงิดหรือว่าอะไรก็แล้วแต่
ไม่เข้าใจเรา พี่จะเริ่มทบทวนแล้ว พี่จะเริ่มทำใจละ
พอเริ่มทำใจวันหนึ่งพี่ก็บอกโอเคพอละ
แล้วถ้าพอแล้วพี่จะให้เวลาของพี่ประมาณ 7 วัน อยากจะเสียใจ
อยากจะร้องไห้คือทำไปเลย แต่หลังจากนั้นนะต้องมูฟออนแล้วนะ
คือชีวิตเราเกิดมาจนถึงเราโตขนาดนี้ แล้ววันหนึ่งเรามาเจอคนๆ หนึ่ง
พี่ไม่มีวันให้คนๆ นั้นมาทำลายชีวิตพี่
คือเราอยู่ของเรามาได้มานานขนาดนี้
พอมาเจอคนหนึ่งมันไม่ใช่ว่าทุกอย่างมันจะพังทลาย
ชีวิตฉันเดินหน้าไม่ได้ ไม่ใช่ เราเคยอยู่ของเราได้
เราก็ต้องอยู่ของเราได้ต่อไปแค่นั้นเอง
ยาวสุดที่คบกับคนๆ หนึ่งกี่ปี ?
ติ๊นา : 5 ปี
แต่พี่สามารถจะมูฟออนได้เลย ?
ติ๊นา : ได้มีการเตรียมใจก่อนแล้ว
เราต้องคิดเยอะๆแล้ว พอเราเริ่มทบทวน โอเค ควรจะไปต่อหรือไม่ควรไปต่อ
มันจะดีหรือไม่ดี เราจะมาทนทำไม แล้วพอวันหนึ่งเราพอแล้ว
ก็บอกเลยพอแล้ว บ๊ายบาย
รู้สึกว่าตอนนี้พี่มีความสุขในการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
?
ติ๊นา : ใช่ ชินด้วย
มันคงยากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ปิดซะทีเดียวว่าจะไม่ให้ใครเข้ามาในชีวิตประมาณนี้ไหม
?
ติ๊นา : ไม่เคยปิดเลย พี่ยังเชื่อในเรื่องของความรัก
ยังเชื่อว่าคนเราควรจะมีเพื่อนรู้ใจ แต่ถามว่ามาจนถึงทุกวันนี้
มันยากมากสำหรับพี่ เพราะชินกับการอยู่คนเดียวอย่างงี้นานมากแล้ว
ทำอะไรด้วยตัวเองอยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องมานั่งบอกใคร
ด้วยความที่เรามีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงด้วย
การที่จะมีคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเรา พี่ต้องชอบเขามากๆ จริงๆ
ถ้าไม่อย่างงั้นไม่รอด
แต่ช่วง 5-8 ปีที่ผ่านมา มีคนเข้าหาพี่บ้างไหมที่ชัดเจน
?
ติ๊นา : ที่ชัดเจนไม่มี
ชีวิตพี่แทบไม่ได้เจอใครเลยนะ อยู่แต่กับครอบครัว มีแม่ มีน้อง มีหลาน
แล้วมีความสุขกับการอยู่กับครอบครัวมาก เพราะเป็นที่ๆ
รู้สึกปลอดภัยด้วย เพื่อนก็มีไม่เยอะ เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกไปข้างนอก
ไม่ค่อยชอบออกงานเท่าไหร่ ชอบอยู่บ้าน อย่างมากก็พาที่บ้านไปทานข้าว
ไปบ้านน้องสาวอยู่กับหลาน ชีวิตพี่มีแค่นี้จริงๆ
เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะไปเจอคนยากมาก
ยังมีคำถามจากผู้ใหญ่ไหม เรื่องจะคบใคร ?
ติ๊นา
: พี่เคยลองคบคนนะ เพราะผู้ใหญ่แนะนำ
หรือว่าจะเป็นเพื่อนแนะนำ ถึงบอกว่าไม่ปิดนะ
โอเคลองไปเดทดูอะไรอย่างงี้ แต่ท้ายสุดมันก็ไม่ใช่
พอมันไม่ใช่เราก็รู้สึกว่าไม่อยากเสียเวลา ทั้งเขาและเราเสียเวลา
ก็ต้องบอกแยกย้ายกันเลย
สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast :
WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00
น.
คลิกชมย้อนหลัง :
https://www.youtube.com/watch?v=3KXyWmhrfrE&ab_channel=WOODY
คุณกำลังดู: เมื่อ "คริสติน่า อากีล่าร์" ตัวมัม Queen of Dance เมืองไทย เปิดใจเรื่องความรัก!
หมวดหมู่: ผู้หญิง