"มัทฉะ" กับ "กาแฟ" ดื่มอะไรดีต่อสุขภาพมากกว่า
"มัทฉะ" ชาเขียวญี่ปุ่นแบบผงกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่ "กาแฟ"
"มัทฉะ" ชาเขียวญี่ปุ่นแบบผงกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่ "กาแฟ" ก็เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก คุณอาจเคยได้ยินถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าสนใจของมัทฉะ และสงสัยว่าจะเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของกาแฟได้อย่างไร บทความนี้จะเปรียบเทียบทั้งสองอย่าง เพื่อวิเคราะห์ความแตกต่าง ข้อดี และข้อเสียหลักๆ
"มัทฉะ" กับ "กาแฟ" ดื่มอะไรดีต่อสุขภาพมากกว่า
ทั้งกาแฟและมัทฉะ มีปริมาณแคลอรี่ต่ำมากเมื่อชงโดยไม่เติมส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม น้ำตาล ครีม หรือไซรัปปรุงรสต่างๆ มัทฉะหนึ่งถ้วยมาตรฐาน ชงโดยผสมผงมัทฉะ 1 ช้อนชา (ประมาณ 2 กรัม) กับน้ำร้อน 2 ออนซ์ (60 มิลลิลิตร) ในขณะที่กาแฟมักชงด้วยน้ำร้อนเช่นกัน
กาแฟ 1 ถ้วย (8 ออนซ์ หรือ 240 มิลลิลิตร) มีคาเฟอีนประมาณ 96 มิลลิกรัม ในขณะที่มัทฉะ 1 กรัม มีคาเฟอีน 19-44 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับ 38-88 มิลลิกรัม หากชงมัทฉะ 1 เสิร์ฟ (2 ออนซ์ หรือ 60 มิลลิลิตร) ตามวิธีมาตรฐาน
กาแฟ 1 ถ้วยมีคาเฟอีนมากกว่ามัทฉะ แต่ปริมาณคาเฟอีนในมัทฉะนั้นแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณผงมัทฉะที่ใช้และความสดของใบชา ทั้งกาแฟและมัทฉะต่างก็มีรสขม แต่รสชาติโดยรวมจะแตกต่างกัน โดยมัทฉะจะมีรสชาติหญ้าหรือดิน ในขณะที่กาแฟจะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่หลากหลายกว่า
ทั้งกาแฟและมัทฉะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และที่จริงแล้ว เครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้มีประโยชน์ร่วมกันหลายประการ
ประโยชน์ทั้งของมัทฉะ และกาแฟ
1.คาเฟอีนต่อการลดน้ำหนัก
คาเฟอีนในทั้งมัทฉะและกาแฟอาจช่วยในการลดน้ำหนักได้ โดยการกระตุ้นไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ซึ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและการสลายไขมัน ไขมันสีน้ำตาลมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการสะสมของไขมันในร่างกาย เนื่องจากสามารถสร้างความร้อนและเผาผลาญสารอาหาร เช่น กลูโคสและไขมันได้
จากการศึกษาหลายชิ้น (บางชิ้นเป็นงานวิจัยเก่า) พบว่าคาเฟอีนอาจช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้สูงสุดถึง 13% เป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
นอกเหนือจากคาเฟอีนแล้ว กาแฟและมัทฉะยังมีสารประกอบสำคัญอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่กรดคลอโรจีนิกในกาแฟและสารเอพิแกลโลแคเทชินแกเลตในมัทฉะ การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารประกอบเหล่านี้มีส่วนช่วยลดน้ำหนักโดยการควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน และยับยั้งการสะสมของไขมัน
2.ผลต่อสุขภาพหัวใจ
ทั้งมัทฉะและกาแฟมีสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยเฉพาะโพลีฟีนอล ซึ่งสามารถช่วยลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และช่วยลดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ EGCG ในมัทฉะยังอาจช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วย ทั้งมัทฉะและกาแฟอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ในการป้องกันความเสียหายของเซลล์ในร่างกายและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง
สารโพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในทั้งสองชนิด โดย EGCG ในมัทฉะและ CGA ในกาแฟมีศักยภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้มัทฉะยังมีสารอื่นๆ เช่น รูติน วิตามินซี และคลอโรฟิลล์ ซึ่งล้วนแต่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน
การดื่มกาแฟหรือมัทฉะนอกจากจะช่วยในเรื่องสุขภาพหัวใจและการป้องกันโรคมะเร็งแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิมากขึ้น และยังช่วยบำรุงตับให้แข็งแรงอีกด้วย สารสำคัญในกาแฟและมัทฉะ เช่น คาเฟอีน L-theanine และ EGCG มีส่วนช่วยในการปรับปรุงอารมณ์และสมรรถภาพทางสมอง ทำให้เรามีความสุขและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความแตกต่างที่ชัดเจน
กาแฟและมัทฉะต่างก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงาน แต่กาแฟจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมคาเฟอีนในกาแฟได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มัทฉะอาจใช้เวลาในการออกฤทธิ์นานกว่าเล็กน้อย นอกจากคาเฟอีนแล้ว มัทฉะยังมีสาร L-theanine ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อรวมกับคาเฟอีนจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้นโดยไม่เกิดอาการกระวนกระวายใจ
ข้อดีของมัทฉะ
นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังงานและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงแล้ว มัทฉะยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ และยังมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพช่องปากอีกด้วย วิธีการชงมัทฉะก็ง่ายมาก เพียงแค่ผสมผงมัทฉะกับน้ำร้อนก็สามารถดื่มได้ทันที ไม่ยุ่งยากเหมือนการชงกาแฟ"
สรุปง่ายๆ คือ มัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ และยังทำง่ายอีกด้วย
ข้อเสียของมัทฉะ
- ราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกาแฟ
- และอาจมีความเสี่ยงต่อความเป็นพิษต่อตับหากบริโภคในปริมาณมาก
- นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในใบชา
- อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการดื่มมัทฉะยังมีจำกัด จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลกระทบที่ชัดเจน
ข้อดีของกาแฟ
- นอกจากจะให้พลังงานแล้ว กาแฟยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น ราคาประหยัดกว่ามัทฉะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย
- อีกทั้งกาแฟยังหาซื้อง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
- สรุปได้ว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการข้อเสียของกาแฟ
ข้อเสียของกาแฟ
- กาแฟก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาเช่นกัน เช่น การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้เกิดการพึ่งพาและมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น นอนไม่หลับ หรือรู้สึกกระวนกระวายใจได้
- ดังนั้นควรดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ และสังเกตอาการของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติควรงดหรือลดปริมาณการดื่ม
กาแฟและมัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งสองชนิดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น ทั้งกาแฟและมัทฉะอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก และเพิ่มระดับพลังงาน นอกจากนี้ ทั้งกาแฟและมัทฉะยังมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่คุณควรพิจารณาก่อนเลือกดื่ม
- นักโภชนาการเผย 4 เหตุผลที่คนดื่มกาแฟดำ แล้วช่วยให้อายุยืน แข็งแรงยันแก่
- 6 สุดยอดประโยชน์ด้านสุขภาพของ "มัทฉะ"
คุณกำลังดู: "มัทฉะ" กับ "กาแฟ" ดื่มอะไรดีต่อสุขภาพมากกว่า
หมวดหมู่: ผู้หญิง