“มือเท้าชา” สัญญาณอันตราย...ที่ไม่ควรเพิกเฉย

“มือเท้าชา” สัญญาณอันตราย...ที่ไม่ควรเพิกเฉย

“มือเท้าชา” สัญญาณอันตราย...ที่ไม่ควรเพิกเฉย

          รู้หรือไม่ว่า ถ้าอยู่ๆ คนใกล้ชิดคุณหรือกระทั่งตัวคุณเองเกิดอาการมือเท้าชา ปวดเสียวเหมือนมีเข็มทิ่มที่บริเวณมือหรือเท้า รู้สึกแสบร้อนหรือเสียวซ่าบริเวณปลายเท้า รู้สึกไวต่อการสัมผัสมากกว่าปกติ (เช่น เมื่อโดนสัมผัสเบาๆก็รู้สึกเจ็บ) อาการต่างๆ เหล่านี้ ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของ “โรคปลายประสาทอักเสบ”


          Sanook! Health เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังมีคำถามว่าโรคนี้คืออะไร เกิดจากอะไร และเราควรจะป้องกันอย่างไร เราจึงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคนี้มาให้อ่านกัน เพราะ “โรคปลายประสาทอักเสบ” เป็นโรคที่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด และเป็นโรคที่ควรจะรักษาแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าเราปล่อยให้เป็นเรื้อรัง โรคจะทวีความรุนแรงขึ้น และอาจจะทำให้เส้นประสาทของเราถูกทำลายจนไม่สามารถกลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม



            โรคปลายประสาทอักเสบคืออะไร

          ถ้าให้อธิบายง่ายๆ เส้นประสาทก็เหมือนกับสายไฟฟ้าในร่างกายเรานี่ล่ะ หน้าที่ของมันคือ ทั้งรับคำสั่งจากสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนกับ โรงผลิตกระแสไฟฟ้า และถ่ายทอดสัญญาณ (กระแสประสาท) ไปยังอวัยวะต่างๆ เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้เรา เดิน วิ่ง หรือเคลื่อนไหวไปตามที่เราต้องการได้ นอกจากนี้หน้าที่สำคัญอีกอย่างของเส้นประสาท คือ การนำส่งสัญญาณจากตัวกระตุ้นจากภายนอก เช่น ความร้อน ความเย็น ไปยังสมอง เพื่อให้สมองแปลผลการกระตุ้นเหล่านั้นเป็น ความรู้สึก


          แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเจ้าเส้นประสาทเหล่านี้เกิดเสียหายและอักเสบขึ้นจากสาเหตุต่างๆ ก็จะส่งผลให้เส้นประสาทไม่สามารถส่งสัญญาณไปส่วนต่างๆ ได้ดีดังเดิม ซึ่งส่งผลให้เราเกิดอาการชา รวมถึงอาการปวด เจ็บ เกิดขึ้น โดย “มือและเท้า” มักจะเป็นเป็นอวัยวะเริ่มต้นที่แสดงอาการก่อน เนื่องจากมีเส้นประสาทที่ยาวซึ่งอาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเส้นประสาทได้มากกว่าอวัยวะอื่นๆ

             รู้จักตัวการของ “โรคปลายประสาทอักเสบ”


           ตัวการที่ทำให้เกิดโรคนี้มีหลายอย่าง แต่ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากโรคเบาหวาน ส่วนสาเหตุอื่นๆ นั้นมีทั้งเรื่องพันธุกรรม ความผิดปกติในระบบเผาผลาญของร่างกาย การเกิดภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง การที่ร่างกายได้รับสารพิษ

          ตัวการที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างก็คือปัจจัยใกล้ตัวสุดๆ อย่างพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ที่มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงของโรคนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นั่งนานๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำกิจกรรมเดิมซ้ำๆ โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง และได้รับวิตามินบีน้อยเกินไป โดยเฉพาะวิตามินบี 1, บี 6 และบี 12 ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อระบบประสาท เนื่องจากเจ้าวิตามินทั้ง 3 ตัว นี้จะทำงานร่วมกันในการช่วยให้ระบบประสาททำงานได้เป็นปกติ และช่วยในการสร้างใหม่ของระบบประสาทที่ถูกทำลาย


          เคล็ดลับสำหรับการดูแล “เส้นประสาทของคุณ”


          การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้สามารถทำได้ตั้งแต่การเปลี่ยนรูปแบบไลฟ์สไตล์หรือกิจกรรมในแต่ละวันให้ห่างจากปัจจัยเสี่ยง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ หยุดสูบบุหรี่ และที่สำคัญอย่าลืมดูแลเรื่องการกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่


          แต่ถ้าหากเราเป็นคนหนึ่งที่เริ่มมีอาการของโรคปลายประสาทอักเสบ Sanook! Health อยากแนะนำให้รับประทาน วิตามิน บี 1 บี 6 บี 12 เพื่อซ่อมแซมเส้นประสาทส่วนที่ถูกทำลาย ทำให้เราหายจาก “อาการมือเท้าชา” และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ


          ติดตามอ่านเคล็ดลับดีๆในการดูแลเส้นประสาทของคุณ เพิ่มเติมได้ที่ neurobionthailand.com

[Advertorial]

คุณกำลังดู: “มือเท้าชา” สัญญาณอันตราย...ที่ไม่ควรเพิกเฉย

หมวดหมู่: รู้ทันโรค

แชร์ข่าว