“เพชรลดา พูลวรลักษณ์” CEO เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เมื่อความรักเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต
ก่อนจะก้าวไปสู่เดือนใหม่ Sanook Women อยากปิดท้ายเดือนมีนาคมเดือนแห่งการขับเคลื่อนพลังหญิงด้วยบทสัมภาษณ์ของ “คุณโอ๋-เพชรลดา พูลวรลักษณ์” CEO เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้บริหารหญิงเพียงไม่กี่คนของวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเอกลักษณ์สำคัญของทุกโครงการภายใต้เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ คือที่พักอาศัยเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง จึงนับได้ว่าเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เป็นดีเวลลอปเปอร์รายแรกที่ใส่ใจต่อชีวิตของเหล่าน้องหมา น้องแมว และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
รากฐานสำคัญในทุกโครงการที่พักอาศัยของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ มีจุดเริ่มต้นมาจาก “ความรัก” ของผู้หญิงเก่งอย่างคุณโอ๋ เพชรลดา ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดที่พักอาศัยเพื่อคนรักสัตว์ แต่เพราะ “ความรัก” ยังผลักดันไปสู่เป้าหมายอื่นๆ ของเธอด้วยเช่นกัน
จาก “ความรัก” เชื่อมโยงสู่ “แพชชั่น”
ในวัยเด็กคุณโอ๋ไม่ใช่เด็กที่ตั้งใจเรียนมากนัก มักหนีเรียนเป็นประจำ แต่เพราะความรักที่มีต่อคุณแม่ จึงกลับตัวกลับใจเริ่มตั้งใจเรียนอีกครั้งกระทั่งจบการศึกษา และเพราะความรักต่อครอบครัวอีกเช่นกันที่ทำให้เริ่มต้นธุรกิจ สร้างแพชชั่นขึ้นมาด้วยตนเองจนกลายเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
“ต้องบอกว่าเมเจอร์ฯ ของเราเกิดมาในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นช่วงเวลาที่ไม่ว่าจะขอเงินกู้จากสถาบันการเงินไหนเขาไม่ให้เราเลย เพราะเขาบอกให้เราไปมองตึกร้าง “มันเป็นแบบนั้น แล้วคุณยังจะขอเงินไปทำคอนโดฯ อีกเหรอ”
แต่วันนั้นเราเชื่อว่าคอนโดฯ ที่อยู่ใน CBD (Central Business District หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ) คือเป็นคำตอบสุดท้ายของคนเมือง เพราะเทรนด์ในต่างประเทศมันก็มาแบบนั้น แล้วที่ในเมืองมันจำกัด ดังนั้นที่อยู่อาศัยในแนวสูงมันคือคำตอบ เราหาข้อมูลมาในระดับหนึ่ง และเราก็เชื่อในสิ่งที่เราวิเคราะห์มา เราจึงมั่นใจ และทำด้านนี้มาตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปัจจุบัน”
สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นคำตอบจากแพชชั่นที่คุณโอ๋สร้างขึ้นเองโดยเริ่มต้นจากความรัก ความสนใจ มุ่งมั่นหาข้อมูล ลงลึกจนเห็นว่าทุกสิ่งมีเสน่ห์ และทำให้เกิดแพชชั่นที่ทำให้รู้สึกกับสิ่งนั้น ก่อนจะต่อยอดจนกลายเป็นความรู้สึกสนุก
“ผู้หญิง” กับบทบาทในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ต้องยอมรับว่าในแวดวงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริหารระดับสูงมักเป็นผู้ชาย และคุณโอ๋น่าจะเป็นผู้บริหารหญิงเพียงไม่กี่คนที่เข้ามาจับธุรกิจนี้ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันของผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ชายกับผู้หญิงนั้น สำหรับคุณโอ๋เธอมองว่าตนเองถูกปูพื้นฐานเรื่องเหล่านี้มาจากครอบครัวของตนเองก่อนแล้ว
“ตรงนี้เรามองว่าไม่มีความแตกต่าง เพราะผู้หญิงและผู้ชายสมัยนี้มีองค์ความรู้ และวิธีการบริหารงานไม่แตกต่างกัน ต้องบอกว่าเราเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวในครอบครัวคนจีนเราว่าความแตกต่างในมิตินั้นมีความต่างมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นส่วนตัวเราคิดว่ามันเป็นการปลูกฝังมาตั้งแต่มิติของครอบครัว เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องทำอะไรมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า เพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการ พอเรามาทำธุรกิจ เราไม่ได้มองว่าการทำธุรกิจที่มีผู้บริหารดีเวลลอปเปอร์อื่นเป็นผู้ชายแล้วมันจะทำให้เกิดความแตกต่าง”
“เรามองว่าถ้าจะทำอะไรเราจะทำให้ดีที่สุด
จนสุดความสามารถ เพราะเราเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปได้
มันอาจจะช้า เร็ว ยาก หรือง่าย
แต่ถ้าเราทุ่มเทเต็มที่เรามองว่าไม่มีอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้
หรือสุดท้ายถ้าเราตั้งใจแล้ว และมันไม่ได้อย่างที่เราต้องการ
เราจะไม่เสียใจเวลากลับไปมองมัน
เราจะรู้สึกว่าเราพยายามดีที่สุดแล้ว”
สุดท้ายแล้วคุณโอ๋มองว่าทุกเพศมีความได้เปรียบเสียเปรียบอยู่ในตัว อีกทั้งแต่ละคนก็มีความแตกต่างที่เราควรยอมรับและเข้าใจกัน แต่การเป็นผู้บริหารในมิติของเธอคือถ้าเธอสามารถทำอะไรได้ดีก็จะทำ แต่ถ้าอะไรที่ทำได้ไม่ดี ก็แค่หาคนที่คิดว่าทำได้ดีมาร่วมงาน นั่นคือการทำงานร่วมกันโดยไม่ได้นำเรื่องเพศ หรือความแตกต่างมาเป็นที่ตั้ง
อายุใกล้ 60 กับเป้าหมายชีวิตที่เปลี่ยนไป
ทุกวันนี้คุณโอ๋เป็นคนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Intermittent Fasting หรือ IF ไลฟ์สไตล์ รับประทานอาหารวันละ 1 มื้อ ออกกำลังกาย 5-7 วันต่อสัปดาห์ และทำแบบนี้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยคุณโอ๋บอกว่าเธอสุขภาพดีขึ้น รวมถึงมีพลังในการทำงานเพื่อสานต่อสิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ลงมือทำ
“ในวัยใกล้เกษียณ ถ้าได้เกษียณก็คงดี แต่เราไม่ได้มองว่าเราจะเกษียณอายุเท่าไร ส่วนตัวเราไม่เคยมองว่าตัวเองอายุจะใกล้ 60 เราไม่เคยนึกถึงอายุว่าเราอายุเท่าไร แต่เรารู้สึกว่าเราแอคทีฟตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 กลับทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง เหมือนเกิดใหม่ เพราะต้องยอมรับว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราบอกกับทีมงานว่าเหมือนเราตกลงไปในคอมฟอร์ทโซน แต่พอมีโควิด-19 เหมือนมีไอเดียพลุ่งพล่าน และยังมีอีกหลายอย่างในชีวิตที่เรายังไม่ได้ทำ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้สึกว่าทำได้ทุกอย่าง”
ดังนั้นเป้าหมายชีวิตของคุณโอ๋ในวันนี้จึงเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เข้ามาทำงานเพียงเพราะถูกคุณแม่บังคับ แต่เมื่อเติบโตขึ้นคุณโอ๋มองกว้างกว่านั้น เพราะพลังแห่งความรักในวันนี้เผื่อแผ่ไปถึงพนักงานอีกประมาณ 300 ชีวิต
“ทุกการตัดสินใจในวันนี้มันหนักอึ้งกว่าวันแรกที่เราเข้ามาทำงาน เพราะวันนั้นเรามีคนในครอบครัวเพียง 3-4 ชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ แต่ทุกวันนี้พนักงาน 300 คนที่เป็นคนเมเจอร์ฯ ครอบครัวของเรา ถ้าเราตัดสินใจผิดมันหมายถึงครอบครัวเมเจอร์ฯ ทั้งหมด รวมทั้งทุกคนก็มีคนที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทุกคน”
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ “เพชรลดา พูลวรลักษณ์” CEO เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เมื่อความรักเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต
คุณกำลังดู: “เพชรลดา พูลวรลักษณ์” CEO เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ เมื่อความรักเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต
หมวดหมู่: ผู้หญิง