ไผ่ ลิกค์ พร้อมชน ฝากถึงคู่กรณี ดิว อริสรา ไม่ผิดอย่าหนี ออกมาสู้เถอะ

ไผ่ ลิกค์ พร้อมชน ฝากถึงคู่กรณี ดิว อริสรา ไม่ผิดอย่าหนี ออกมาสู้เถอะ

หลังจากที่ ดิว อริสรา ได้เปิดภาพที่ตัวเองถูกทำร้ายร่างกายจนเลือดตกยางออกไปเมื่อวานนี้ อดีตคนรักเก่าที่ปัจจุบันอยู่ในฐานะพี่ชายอย่าง ไผ่ ลิกค์ ก็ได้เคลื่อนไหวด้วยการโพสต์รูปภาพของดิวที่ถูกทำร้ายร่างกายและพร้อมจะช่วยเหลือน้องคนนี้

ซึ่งเรื่องราวที่ดิวได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.66) ก็ทำให้หลายๆ คนให้ความสนใจไม่น้อย ล่าสุดในวันนี้ (9 ก.พ.66) ไผ่ ลิกค์ ก็ได้มานั่งพูดคุยในรายการโหนกระแส กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ ดิว อริสรา

เป็นพี่ชายคนสนิท รู้จักกับดิวมากี่ปีแล้ว?
ไผ่ : รู้จักตั้งแต่อายุ 19-20 ประมาณนี้ เป็น 10 กว่าปี รู้จักกันมา สนิทเหมือนน้องสาว เห็นโตมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ (ห่วงหาอาทรช่วยเหลือกันมาตลอด) เหมือนเราเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่โตขึ้นมา แต่พอวันหนึ่งมันอาจไม่ได้เห็นที่ตรงนี้ เราก็เห็นเขาเป็นต้นไม้ที่เติบโตไปก็มีความผูกพัน สนิทสนมกัน

ประเด็นล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ ดิว อริสรา คนที่รู้ที่สุดนอกจากผู้จัดการส่วนตัวคือไผ่?
ไผ่ : (หัวเราะ) ผมว่ามีอะไรก็ปรึกษากันดีกว่า ผมไม่ได้ช่วยเขาอย่างเดียว บางทีเขาก็ช่วยงานต่างๆ ที่ผ่านมา เราได้ช่วยกัน ไม่ว่าจะสถานการณ์โควิด เราก็ช่วยกันตลอด ช่วยเหลือประชาชนดิวก็ช่วย

ในวันที่มันมีประเด็นเกิดขึ้น ที่ดิวออกมาเปิดข้อมูลของตระกูล บ. ที่มีส่วนพัวพันเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาทางออนไลน์ ชื่อว่า มาเก๊า888?
ไผ่ : ผมไม่รู้ ช่วงหลังๆ ผมเคารพเพราะเขามีครอบครัว จะไปคุยบ่อยๆ มันก็ไม่เหมาะ ไม่ควร แต่หลังจากที่มีออกมา เราก็ถามเขา ทำไมถึงทำ และก็ได้เตือนเขาในส่วนของว่า เรารู้ว่าเล่นแบบนี้มันค่อนข้างแรง

ยังทักเขาว่าทำแบบนี้มันเหมือนเทหมดหน้าตักนะ เราต้องเข้าใจว่าอย่างที่เห็นออกมา ผมก็รับทราบ เครือข่ายมันค่อนข้างใหญ่ แต่วันนี้เราจะไปว่าเขาผิดมันก็ยังไม่ถูก แต่เรารู้ว่าเครือข่ายมันค่อนข้าง แม้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริง อันนี้คือส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่าไปเล่นเขาแรงขนาดนี้ ถ้าเขาหลุดมา เขาจะเป็นผู้บริสุทธิ์เลย และรวมถึงว่าเราอาจจะโดนอะไรกลับก็ได้ และมันก็มีเหตุการณ์ที่เราผ่านมาเราก็ช่วยตรงไหนที่เราช่วยได้ มีการปะทะกันบ้าง ก็เคยมีกันมาแล้ว

ไผ่รับรู้ว่าดิวมีประเด็นโดนทำร้ายร่างกายจาก 1 ใน 4 บ. นี้มาตลอด?
ไผ่ : คือการทำร้ายร่างกายเรารับทราบมา แต่ประเด็นที่เราไม่ออกมาคือ น้องเขาเป็นผู้หญิงสวย เป็นดารา เป็นตัวแม่หรืออะไรก็ตาม แล้ววงการบันเทิงภาพแบบนี้จะออกมาอาจจะดูไม่ดีก็ได้ หรือออกมาดีก็ยังไม่มีใครรู้ เขากลัวโดนลบ เขาก็เลยฝากไว้ ฝากเก็บไว้ให้ดิวหน่อยนะ

ดิวโดนทำร้ายร่างกายตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไผ่ : ตอนแรกที่เขาหัวแตกน่าจะเป็นแผลแรก ตอนที่ผมโทรไปถามเขา เขาส่งรูปภาพมา ผมตกใจ เขาไม่ยอมบอก แต่เขาก็พยายามสู้กับมัน

หลังจากที่เกิดประเด็นออกมามันมีคำถามคำหนึ่งจากสังคม?
ไผ่ : ดิวเขาพยายามต่อสู้ เวลารักใครเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่อยากจะเปลี่ยนคนรักไปเรื่อยๆ ผมพูดในฐานะพี่ชายนะ ไม่ได้ไปว่าใคร ผมเชื่อว่าอาการพวกนี้ที่เกิดขึ้นไม่ได้จากจิตอย่างเดียว มันคงต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่น เดี๋ยวให้คุณหมอวิเคราะห์

มีการขู่ฆ่ากัน เปิดแชตการคุยกันของดิวกับอดีตแฟนเก่าทางไลน์ ไผ่เคยรับรู้เรื่องนี้มั้ย?
ไผ่ : ผมเห็นมานานแล้ว ตอนที่เขาเลิกกันชัดเจน ผมก็ได้เห็นมาตลอดอยู่แล้ว

ในครั้งนั้นดิวเคยถูกขังไว้ ครั้งหนึ่งในอดีตลองไปถามคนที่เคยทำงานกับ ดิว อริสรา มาสาย หายตัว ไม่สบาย ปวดท้อง เยอะมาก หลายคนคิดว่าดิวปาร์ตี้หนัก มาไม่ได้ ดิวเฟียร์ส ต่างๆ นานา แต่สุดท้ายไม่ใช่อย่างนั้น คนที่เขาคบด้วยไม่ปล่อยให้เขามาทำงาน วิธีการคือเมื่อไหร่ที่ดิวจะออกไปทำงาน เขาก็จะต่อยหน้าให้หน้าเขียว หน้าบวม หน้าแตก จะได้ไม่ต้องไปทำงาน ไผ่รู้ใช่มั้ย?
ไผ่ : ถ้าเป็นประมาณนี้ผมก็พอได้ยินบ้าง แต่ถามรายละเอียดขนาดนี้ ตอนที่เขาคบกันผมไม่ได้ยุ่ง ถ้าเมื่อไหร่ที่เขามาปรึกษาก็จะให้คำปรึกษามากกว่า แต่ถามว่าจริงๆ คนคนนี้เป็นยังไงเค้ารู้กันหมดอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกและสิ่งที่เห็นมาผมก็ยังว่าหมาเห่ามันไม่กัด

วันไหนที่เราตัดสินใจเข้าไปช่วยเรื่องนี้?
ไผ่ : คือวันที่เขาเลิกรากันจริงๆ และเค้ามาปรึกษา ผมก็จะเป็นที่ปรึกษามากกว่าว่าตรงไหนที่เราซัพพอร์ตได้ หรือตรงไหนที่เราคิดว่ามันเกินกว่าเหตุเราก็จะเข้าไปช่วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลักษณะแบบนั้น

แล้ววันที่หนักที่สุด?
ไผ่ : ก็จะเป็นที่ช่วงหลังๆ เค้าเข้าไอซียู โดยที่เราไม่ต้องไปพูดถึงว่ามันเป็นเรื่องอะไร ซึ่งผมก็ได้ไปเยี่ยม ด้านคุณแม่เขาก็ร้องไห้และมานั่งคุยกัน แต่ถามว่าคุยกันวันนั้นมันก็ยังมีเรื่องที่ติดพันอยู่กับคนที่อยู่ด้วยกัน ผมว่ามันก็ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเค้าถึงจะขาดกัน

คุณเคยเข้าไปช่วยด้วยใช่ไหม?
ไผ่ : อย่าเพิ่งไปพูดแบบนั้นเลย ทำหน้าที่พี่ชายดีกว่าประมาณนั้น คือเราไม่อยากไปแตะอะไรตรงนั้นมาก

หลายคนสงสัยหรือสิ่งที่ดิวทำเพื่อต้องการแบล็กเมล์และเอาเงินจากเขา?
ไผ่ : คือประโยคนี้ผมไม่เคยถามเค้าเหมือนกัน และผมก็คงจะไม่ถามน้องด้วยจะไปแบล็กเมล์กันหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าการแบล็กเมล์คงต้องไม่ใช่ออกมาแบบนี้ เพราะออกมาแบบนี้มันสู่สาธารณะมันทำไม่ได้หรอกครับ

ผมคิดว่าวันนี้มันเป็นเรื่องที่อึดอัดใจผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเห็นแผลตัวเอง วันนี้ถ้าผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็กผมเห็นหน้าตาเขามาตลอด อย่างวันนี้ผมมองเขาจากวันนี้จนถึงวันนั้นถ้ามองดีๆ หน้าเค้าจะเบี้ยวๆ เราเห็น ถ้ามีรูปเราก็จะเห็นว่ามันบวมตรงไหนลองไปสังเกตดีๆ และเขาต้องทนอยู่กับเรื่องพวกนี้ผมว่าเค้าคงอึดอัดจริงๆ แต่ด้วยสถานการณ์และกระแสตอนนี้มันทำให้เรื่องนี้มันจุดติด เพราะเขาพยายามพูดมาแบบนี้หลายครั้งแล้วเพียงแต่ครั้งนี้มันติด

กรณีที่มีตำรวจไปร้านทำเล็บของดิว?
ไผ่ : เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันที่แล้วตอนแรกผมไม่ทราบหรอกว่าเป็นตำรวจเราก็ตกใจอันนี้ก็คือส่วนนึงที่ผมออกมาโพสต์ และผมออกมาโพสต์รวมถึงที่ออกมาเอารูปให้มันชัดขึ้นเพราะว่าเราไปเห็นแน่นอนรู้กับดิว

ดิวส่งมาบอกว่าพี่มันมีคนสองคนซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจอยู่แล้ว เข้ามาในร้านเป็นชายฉกรรจ์เข้ามาถามว่าเจ้าของร้านเป็นใคร พอเค้าถามเสร็จแล้วเค้าบอกว่าพรุ่งนี้จะพาคนมาทำเล็บ ซึ่งดูทรงแล้วเราก็รู้และร้านนั้นเพื่อนดาราเค้าก็ลงทุนกันเป็นผู้หญิงหมดเลยนึกออกไหมครับ เราก็มองว่ามันไม่ได้แล้วถึงพูดออกมาเพราะเราห่วงเรื่องนี้แหละ

พอตอนหลังคุยไปคุยมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอันนี้ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปตรวจร้านทำเล็บแบบนี้ ถ้าเค้าพูดว่าไปตรวจร้าน ทำเล็บแล้วไม่รู้ว่าเป็นร้านของดิวผมก็ต้องบอกเรียนว่าผมก็ต้องไปถามทางอื่นด้วยว่าเค้าขอไปอย่างนี้หรือเปล่า นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้ผมต้องออกมาโพสต์

ทางฝั่งผู้กำกับทองหล่อออกมายืนยันว่าเป็นการเข้าตรวจตามหน้าที่?
ไผ่ : คือผมเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทั้งดีและไม่ดี และคนที่ทำงานที่เข้ามาทำเรื่องของการจับกุมครั้งนี้ ที่ทำงานผมว่าเค้าทำดีมาก เค้ารวบรวมหลักฐานการขอหมายค้นในที่ต่างๆ ผมเชื่อว่าหลักฐานต้องถึงแล้วผมเห็นประเด็นก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีใครพูดก็คือเค้ามีหุ้นส่วนผับเดอตี้สักที่นึง

วันนั้นที่ตำรวจจะลงผับนี้ก็ได้ถูกปิดก่อนที่ตำรวจจะถึงซึ่งมันก็อยู่ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ถามว่ามันต้องมีคำสั่งออกมาแล้วอยู่ดีๆ จะไปตรวจทุกที่หรือพี่ตรวจเองคงไม่ใช่ แต่เมื่อกี้ผมเห็นพี่หนุ่มพูดผมเลยโทรไปหาประธานกรรมาธิการตำรวจ ซึ่งเค้าจะตอบว่ายังไงไม่เป็นไรแต่ขอให้เขามาคุยกับผมก่อน แล้วผมก็คงจะเชิญสองคนนี้มานั่งคุยด้วยแล้ว

มีวงในบอกว่าสองคนที่เข้าไปร้านทำเล็บ เป็นลูกน้องของคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้?
ไผ่ : รองผู้กำกับท่านหนึ่ง เขาว่ากันมา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผับด้วย และผมขอเตือนว่าเรื่องนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าใครถูกใครผิดอย่าไปออกตัวช่วยกันเลย เอาให้เป็นไปตามถูกผิดดีกว่าให้เค้าว่ากันไปเป็นเจ้าหน้าที่วันนี้เราอย่าไปช่วยเหลือคนกระทำความผิดเลยมันไม่ดีหรอก ซึ่งผมจะตามต่อเรื่องนี้แน่นอน ผมจะเชิญเขาสองคนออกมาคุยแน่นอน

กลุ่มพี่น้องตระกูล บ. ที่มีปัญหากับดิว เค้าเคยมีเรื่องกับคุณถึงขั้นเอาเงินมาฟาดหัวด้วย?
ไผ่ : ก็มีคนพูดมาครับ ก็ประมาณนั้นผมก็ไม่อยากไปว่าเค้ามาก และไม่อยากให้พูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว เราก็ไม่ได้สนใจในส่วนตรงนั้นอยู่แล้ว ผมทำงานไม่ใช่เคสดิวเป็นน้องสาว ซึ่งผมก็เคยคุยกับพี่หนุ่มในเรื่องของการมีคนทำร้ายในครอบครัวอยู่แล้ว แต่ติดที่มันเป็นเรื่องของครอบครัวเขา จริงๆ พวกเรารวมถึงท่านธรรมนัส หนึ่งเห็นตรงนี้อยู่แล้วเรื่องการทำร้ายในครอบครัว และรวมถึงการที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลปฏิบัติโดยไม่ชอบเราก็ทำอยู่แล้ว

กรณีการถูกทำร้ายร่างกายหนัก มันทำให้ผู้หญิงคนนึงฝังใจได้ 3-4 ปีแล้วค่อยกดปุ่มเหรอ?
หมอ : 3-4 ปีนี้ถือว่าเร็วมากนะครับจริงๆ บางคนมีความสนใจอยู่ประมาณ 10-20 ปี ก็เป็นไปได้ครับ เราว่าตอนนั้นเรื่องความทุกข์ใจความเศร้าใจ คือคนเมื่อถูกกระทำความรุนแรง เค้าจะมีปฏิกิริยาในใจมากมาย ตั้งแต่ความกลัวความโกรธความเศร้า หลายคนโทษตัวเองว่าตัวเองเป็นต้นเหตุในการที่ฉันต้องถูกทำความรุนแรงหรือเปล่า ฉันเป็นต้นเหตุในการทำตัวไม่ดีหรือเปล่า บางคนรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก ขาดความมั่นใจในตัวเองมันหายไปหมดจนรู้สึกว่ามันทำอะไรไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้มันเก็บ และความรู้สึกแบบนี้มันถูกเก็บโดยไม่เปิดออกมาเลยมันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ ที่เค้าเงียบไปบางครั้งอาจจะไม่ใช่เพราะว่าเค้าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่แค่อาจจะไม่มีจังหวะในการที่จะมีคนมาช่วย หรือมาช่วยระเบิดออกมา

ผู้หญิงคนหนึ่งคบกับผู้ชายมาเกือบ 2 ปีแล้วโดนจนสภาพเป็นแบบนี้นี่คือร่องรอยบาดแผลที่มีการเย็บบนศีรษะ ถ้าแตกอย่างนี้กำปั้นทุบคงไม่ใช่?
ไผ่ : น่าจะปืนตบครับ

อันนี้ขาของคุณดิว เลือดไหลชโลมลงมาหยดถึงพื้น นี่คือความรุนแรงที่คุณดิวโดนมาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี อันนี้ขาเป็นแผลฉีกอ้าเลยครับ ผู้หญิงคนนึงที่ถูกกระทำแบบนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็น ทราบไหมว่าทำไมเขาถึงไม่แจ้งความ?
ไผ่ : ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ วันนั้นเขายังมีสถานะเป็นดารา แล้วเขาก็คงไม่อยากให้ใครมองเขาในมุมนี้ มันแล้วแต่มุมมองและช่วงเวลา แต่ ณ วันนี้มันถึงเวลาที่เขาจะลุกมาสู้ ด้วยเขาอาจจะมีครอบครัวแล้ว เขาคงมีความคิดของเขาครับ

หมอ : ตามสถิติ ถ้าผู้หญิง 10 คนที่ถูกทำร้ายร่างกายในครอบครัว 9 คนไม่พูด มีแค่คนคนเดียวเท่านั้นที่กล้าพูด มี 3 สาเหตุหลัก 1. ไม่รู้จะไปบอกใคร บางคนไม่ทราบว่าสายด่วน 1300 ของช่วยเหลือสังคมรับแจ้งเรื่องนี้ 2. ไม่กล้า กลัว เอาจริงเราดูแชตเมื่อกี้ ผมยังขนลุกเลย คนธรรมดาบางทีเห็นแล้วก็กลัว หรือคนรอบข้างเพื่อนเขาเห็นแล้วไม่กล้า บางทีก็เอ๊ะ เขาจะโอเคหรือเปล่า เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
3. ไม่เชื่อ เราไม่เชื่อว่าไปบอกใครแล้วจะเกิดการจัดการได้ ไม่เชื่อในระบบ ไม่เชื่อในการแจ้งความ กลัวแจ้งไปแล้วไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี

กรณีของดิว การที่วันนี้ผ่านไป 3 ปีแล้วมากดปุ่ม แล้วคนมาบอกว่าทำไม 3 ปีถึงไม่ออกมาพูด?
หมอ: สมมติคุณไม่มีแฟน แล้วถูกคุณพ่อคุณแม่กระทำความรุนแรง แล้วคุณรักเขามากๆ คุณไม่อยากบอกใคร แล้วบางครั้งเราเกิดคำถามว่า เอ๊ะ เป็นเพราะฉันทำผิดเองหรือเปล่า คุณค่าความเป็นมนุษย์มันน้อยลงไปเรื่อยๆ จนทำให้รู้สึกว่าฉันไม่สามารถขอความช่วยเหลือใครได้ การที่เก็บไว้ 1 2 3 ปีไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่ควรขอความช่วยเหลือจากใคร อย่างคนที่ไม่เชื่อในระบบว่าตำรวจจะช่วยเขา พอวันนึงคนนั้นผู้มีอำนาจถดถอยลง ก็อาจเป็นจังหวะนั้นที่เขาสามารถตะโกนขอความช่วยเหลือ

จากวันนี้ดิวจะทำยังไงต่อไป?
หมอ: อันนี้ผมคิดว่าอย่างน้อยสิ่งที่คุณดิวออกมา มันได้ปลดปล่อยในเรื่องที่มันค้างคาในใจตัวเองแล้ว ผมคิดว่าคุณดิวอาจจะต้องดูแลเรื่องจิตใจตัวเองนะ เพราะบางครั้งการระเบิดออกมา มันมีผลกระทบตามมาพอสมควร

ไผ่ : ทั้งหมดเนี่ย ดิวไม่ต้องการให้มันถึงขนาดนี้ วันนี้เขาเพียงปกป้องครอบครัวเขา เพราะครอบครัวเขาโดนใส่กลับมา แล้วเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญกับระบบของสังคม ผมว่าอีกหน่อยถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันไม่เหลือคนที่มาพูด คนที่มาตั้งคำถามต้องถามกับตัวเองว่าถ้าเจอกับสิ่งพวกนี้ คุณจะยังกล้าออกมาทำอย่างนี้กับเขาไหม

ผมเชื่อว่าหลายคนที่โดนไม่กล้าออกมานะครับ รูปทุกอย่าง แชตทุกอย่าง เขาเก็บมานาน แล้วผมเคยถามเขาแล้วว่าเขาจะออกมาไหม เขาปฏิเสธว่าเขาไม่ แต่วันนึงที่เขาจนแต้มจนมุม เขาก็ต้องขายความที่ไม่อยากออกมา มันน่าสงสารกว่าอีก

รูปนี้ที่คุณดิวถูกบีบคอ เสี่ยงเสียชีวิตได้เหมือนกัน มันป่าเถื่อน?
หมอ: จริงๆ มนุษย์ยุคนี้เราพัฒนาเรื่องการสื่อสาร เราผ่านจากยุคที่อยู่ในถ้ำกันมานาน สมัยก่อนอยู่ในถ้ำอาจตัดสินด้วยกำลัง แต่มนุษย์ได้พัฒนาการสื่อสาร เพราะฉะนั้นเรื่องความรุนแรงเป็นเรื่องไม่จำเป็นและหลีกเลี่ยงได้

ในอีกมุมนึงมีข้อครหาว่าคุณดิวมีการเอาเรื่องเงินเข้ามา บอกว่ามีหลักฐานการโอนเงิน แต่ในมุมคุณดิวมันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น อันนี้คุณไผ่ก็รู้เรื่องถูกมั้ย?
ไผ่ : คือผมมองว่า ณ วันนี้เรื่องที่ออกมาทั้งหมดมันเป็น 2 มุมอยู่แล้ว ไฟที่เราจุดมาเนี่ยมันจะลามไปทุกที่ ซึ่งผมคุยกับดิวแล้ว ผมก็เชื่อว่าวันนี้รวมถึงสามีเขา มันก็ต้องเข้าการตรวจสอบอยู่แล้ว ผมว่าถ้าถึงการตรวจสอบจะได้ใส่ทั้งหมด มันก็เป็นสิ่งที่ดี ผมเชื่อว่าถ้าจะออกมา สาวกันไปสาวกันมา เดี๋ยวก็จะเห็นเองถ้ามันมี แต่การคบคนสองคน ผู้หญิงโดนขนาดนี้ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่รักกัน มันมีอะไรซับซ้อนครับผมว่า

มันมีสัญญาเงินกู้ฉบับนึงที่มีการกู้ยืมตั้งแต่แรก (เปิดภาพชายคนหนึ่งเซ็นเอกสารบันทึกการชำระเงินคืนให้ดิว อริสรา เป็นเงิน 9.8 ล้านบาท) ดิวบอกว่าเอาตรงๆ นะ วันนั้นคนรักกัน ถามว่าเขามีให้หนูมั้ยก็มี มันเป็นเรื่องคนรักกัน เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องยืมเงินก็อีกเรื่องนึงนะ แต่ตรงนั้นเขาเป็นแค่แฟน ฉะนั้นให้ระวังเรื่องการเบี่ยงประเด็น ประเด็นวันนี้ต้องมองเรื่องธุรกิจสีเทาว่ามีบุคคลไหนเกี่ยวข้องบ้าง

ล่าสุดมีคนออกมาเคลียร์แล้ว ดูข้อมูลที่เขาส่งมาเคลียร์หน่อย (เปิดแชตไลน์ที่ลงในเพจโหนกระแส) คนกลางคนนี้ถ้าให้พูดตรงๆ ก็เป็นลูกนายพลคนหนึ่ง แล้วเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับในเรื่องนี้ แต่รับหน้ามาเคลียร์ให้ 1 ประเด็นของเรื่องธุรกิจสีเทา ใครมีส่วนกับกระบวนการนั้นบ้าง มีการส่งให้ใครบ้าง ได้ข่าวว่ามีวงการมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ถูกมั้ยครับ?
ไผ่ : ใช่ครับ น่าเป็นห่วงที่สุดก็เรื่องแบล็ก เพราะเขาทำ 2 ธุรกิจหลัก ธุรกิจที่เป็นเทาๆ ก็เป็นเรื่อง การที่เขามีส่วนในการเปิดผับ กระบวนการมันใกล้ชิดอยู่แล้ว ทำให้เขามีความสนิทสนมกับตำรวจ ผมถึงบอกว่าเราจะทำอะไรค่อนข้างลำบาก

ในเรื่องของดิวจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือยังไง?
ไผ่ : ช่วยเหลือเรื่องการเปิดโปงของเว็บไซต์ และเรื่องของการโดนทำร้าย และอย่างสุดท้ายเรื่องของการปลอดภัย ส่วนผม 2 อย่างแรก ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงทำงานกันอยู่แล้ว เรื่องเว็บไซต์ ตำรวจยังทำงานกันดีอยู่ คอยเกาะติดอยู่ และรวมถึงเรื่องผู้หญิงโดนทำร้าย อันนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เราก็จะมาดูว่าทำไงได้ อายุความ 10 ปี ยังแจ้งได้อยู่ แต่ข่มขู่ได้ไม่ถึงปี อาจจะเกินไป ทำอะไรไม่ได้ เรื่องความปลอดภัยผมก็คงต้องช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่าช่วยได้ขนาดไหน

ตัวเองเธอโทษตัวเองไปแล้ว ส่วนคนรอบข้างที่มีผลกระทบ เธอขอโทษ แต่ทั้ง 4 คนรับรู้มาตลอดว่าตัวเธอเองถูกกระทำอะไรยังไงบ้างจากพี่ชายคนโตจากบ้านหลังนี้ แต่ไม่มีใครช่วยเหลือเธอเลย จนวันนึงวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เธอปล่อยทุกอย่างออกมา และนี่คือที่มาที่ไปของผู้หญิงคนนี้นั่นเอง ซึ่งประเด็นทั้งหมดมันจะมีอยู่ 2 ประเด็นก็คือการทำร้ายร่างกายดิว และธุรกิจสีเทา ทุกคนก็พยายามอย่าเลี่ยงไปทางไหน?

ไผ่ : ผมก็ต้องฝาก จริงๆ แล้วเราก็รับทราบหลายๆ อย่างมา อยากให้เจ้าหน้าที่ก็อยากให้เคสนี้พิสูจน์ออกมาได้ทำให้มันถูกต้องได้ และใครที่พยายามช่วยอยู่ก็ปล่อยให้เป็นตามกระบวนการที่ถูกต้องดีกว่า จบยังไงก็ต้องเคารพถึงขั้นศาลตรงนั้นน่าจะเหมาะสมที่สุด

หมอ : อยากฝากเรื่องความรุนแรงในครอบครัวครับ ปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานานไม่มีเหตุผลหรือไม่มีสิทธิ์ใดที่คุณจะใช้ความรุนแรงการพูดคุยลดความรุนแรงในครอบครัว สำหรับคนที่กำลังทำอยู่คุณสามารถหยุดได้ สำหรับคนที่เป็นผู้ถูกกระทำคุณก็สามารถเรียกร้องสิทธิ์ตัวเองได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อซ้ำๆ

ในระหว่างที่ดำเนินรายการผมได้ขออนุญาตไปถึงคุณ ดิว อริสรา แล้วว่าจะมีการพูดคุยถึงเรื่องราวของเธอผ่านทางคุณไผ่ และคุณดิวก็ชมอยู่ด้วย ล่าสุดเธอส่งข้อความมาหาผมว่า “เธอบอกว่ารักขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณทุกคน ก็หวังว่ากฎหมายความเป็นธรรมจะช่วยให้อะไรกระจ่างขึ้น ส่วนตัวของดิวขอเซฟใจตัวเองในการเปิดแผลตัวเองก่อนนะพี่หนุ่ม” ซึ่งเธอก็ชัดเจนและอยากจะบอกเราว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เปิดออกมาเหมือนเป็นการเปิดแผลให้กับตัวเองเหมือนกัน และตัวเองก็จะต้องเซฟใจตัวเอง แล้วเธอก็เจ็บกับการที่เปิด แต่ไม่เปิดก็ไม่ได้

หมอ : อยากให้กำลังใจนะครับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครสักคนที่จะออกมาพูด แล้วก็รู้ด้วยว่าการพูดของเราอาจจะส่งผลตามมาอีกมากมาย และการที่ใครถูกทำร้ายร่างกายและมีความกล้าแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ผมเชื่อว่ามันจะเป็นกำลังใจให้ใครอีกหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันและต้องการกำลังใจต้องการความกล้าให้เขาลุกขึ้นมาออกจากสถานการณ์

คุณไผ่พร้อมชนนะ?

ไผ่ : พร้อมชนครับ ธรรมดาเราก็ทำอยู่แล้ว

เดี๋ยวเค้าเอาเงินฟาดหน้านะ?

ไผ่ : เขาคงมีไม่มากพอครับ

เคยมีเรื่องอะไรกับเขาไหมถามจริง?

ไผ่ : เคยไปถามเขาเหมือนกันว่าทำไมปากดีจังเลย เค้าก็บอกว่าเปล่าครับ ซึ่งผมกับเขาก็มีการแข่งรถอยู่ด้วยกันอยู่แล้วแต่เป็นการแข่งกันคนละแบบ ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นยังไง แต่วันนี้สังคมผมเน้นย้ำอย่าไปเชิดชูคนที่ทำแบบนี้ บางครั้งเราไปเชิดชูแค่ตัวเงินว่าขับรถดีครับรถสวย มันก็ต้องหยุดกันเห็นแล้วคือทำสิ่งที่ถูกต้องดีที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกก่อนว่า 4 บ. ยังมีความบริสุทธิ์อยู่และเขายังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการ 1 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูว่าสุดท้ายจะมอบตัวเมื่อไหร่ สุดท้ายอีกสามคนแน่นอนว่าคนหนึ่งต้องลาออกจากการเป็นตำรวจ อีกหนึ่งคนต้องเลื่อนงานแต่งงาน ทุกคนอาจจะมีผลกระทบในตรงนี้ ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ แต่ก็ต้องรอผลพิสูจน์ว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรบ้างทั้ง 4 คน รวมถึงที่แตกหน่อออกไปด้วย ต้องไปดูให้ได้ว่าตรงไหนเป็นยังไง?

ไผ่ : ไม่ผิดไม่หนีหรอกครับ

พูดซะเจ็บเลย เค้าอาจจะตั้งหลักอยู่ก็ได้?

ไผ่ : นานไป ไอจีก็ปิดอย่างที่เห็นอยู่ กลับมาสู้เถอะครับ ถ้าไม่ได้ผิดอะไร ถ้าออกมาสู้ตั้งแต่แรกมันคงไม่มาถึงเรื่องทำร้ายร่างกายก็ได้

คุณกำลังดู: ไผ่ ลิกค์ พร้อมชน ฝากถึงคู่กรณี ดิว อริสรา ไม่ผิดอย่าหนี ออกมาสู้เถอะ

หมวดหมู่: ความบันเทิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด