"อุจจาระสีซีด" สัญญาณบอกโรคอันตรายของร่างกาย
ส่วนมากสีของอุจจาระจะเป็นไปในเฉดสีน้ำตาล หากเมื่อใดที่อุจจาระสีซีดแสดงว่าร่างกายกำลังมีปัญหา วันนี้ลองสังเกตสีอุจจาระของตัวเองก่อนกดชักโครกกันด้วยนะ
หลายคนคงไม่เคยสังเกตที่ของอุจจาระกันใช่ไหม? แต่ความจริงแล้วอุจจาระนั้นก็สามารถบ่งบอกถึงโรคที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้ ส่วนมากสีของอุจจาระปกติจะเป็นไปในเฉดสีน้ำตาล แต่หากเมื่อใดที่ อุจจาระสีซีดลงนั่นแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้นทาง Hello คุณหมอจึงมีเรื่องนี้มาฝากกัน
อุจจาระสีซีด สื่อถึงอะไรได้บ้าง ?
โดยปกติแล้ว อุจจาระอาจจะมีสีแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากจะเป็นไปในเฉดสีน้ำตาลนั่นก็เกิดจากการทานอาหารนั่นเอง แต่เมื่ออุจจาระมีสีซีดนั่นแสดงว่ากำลังมีเรื่องไม่ปกติเกี่ยวกับร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงกำลังมีปัญหากับการระบายน้ำของระบบทางเดินน้ำดี ซึ่งประกอบด้วย ถุงน้ำดี ตับ และตับอ่อน
เกลือน้ำดีจะถูกปล่อยออกมาสู่ตับ นั่นจึงทำให้อุจจาระมีสีน้ำตาล แต่หากตับผลิตน้ำดีไม่เพียงพอ หรือหากน้ำดีไหลไปอุดตันและไม่ระบายออกจากตับ อุจจาระก็อาจมีซีดหรือเป็นสีนวลได้ การมีอุจจาระสีอ่อนๆ นานๆ ครั้ง อาจไม่ใช่สาเหตุของความกังวล แต่ถ้าหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งนั่นอาจหมายถึงคุณกำลังป่วยหนักอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการแปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์รักษาความเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น
อะไรที่สามารถทำให้อุจจาระสีซีดได้ ?
มีหลายสิ่งที่สามารถเปลี่ยนสีของอุจจาระได้ ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน การติดเชื้อ และอาหารบางชนิด ปัญหาทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ถุงน้ำดี และโรคตับ ก็สามารถเปลี่ยนสีอุจจาระได่เช่นกัน หากอุจจาระมีสีซีด โดยเฉพาะถ้าเป็นสีขาวหรือสีนวล สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้
ดังนั้น เมื่อผู้ใหญ่มีอุจจาระสีอ่อนที่ไม่มีอาการอื่นๆ ก็มักจะปลอดภัย แต่ก็ควรต้องหมั่นดูว่าอุจจาระกลับสู่ปกติหรือไม่ ส่วนในเด็กและทารกหากมีอุจจาระสีซีดหรือขาวมาก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่สามารถทำให้อุจจาระสีซีดได้
-
อาหาร
อาหารบางประเภทอาจทำให้สีอุจจาระอ่อนลง โดยเฉพาะอาหารที่ไขมันหรืออาหารที่มีสีผสม ส่วนวิตามินที่มีธาตุเหล็กจะสามารถเปลี่ยนสีของอุจจาระให้เป็นสีน้ำตาลเข้ม หากเกิดอุจจาระสีซีดนั่นอาจหมายถึง คนที่มีเงื่อนไขทางการแพทย์พื้นฐาน -
ไกอาเดีย (Giardia)
ไกอาเดีย (Giardia) คือ ภาวะติดเชื้อไกอาเดีย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในลำไส้เล็กจากปรสิตที่มีชื่อว่า ไกอาร์เดีย แลมเบลีย (Giardia Lamblia) โดยทั่วไปแล้วการติดเชื้อชนิดนี้มักเกิดจากการดื่มน้ำที่มีสารปนเปื้อน หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งอาการที่พบบ่อยที่สุดก็คือ อาการปวดท้อง ปวดท้องบวม ปวดศีรษะ อาเจียน และมีไข้ -
ยา
ยาบางชนิดสามารถทำลายตับได้ โดยเฉพาะเมื่อคนทานเกินขนาดที่แพทย์หรือผู้ผลิตแนะนำ การรักษาแบบซื้อยาตามใบสั่งแพทย์ (Over-the-counter หรือ OTC) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และ อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) สามารถเป็นอันตรายต่อตับ คนที่สังเกตอุจจาระสีอ่อนหลังจากทานยาใหม่ หรือหลังจากทานยาบรรเทาปวด ตามใบสั่งแพทย์มาเป็นเวลานานหรือเกินขนาดที่ถูกต้องอาจมีผลเสียหายต่อตับ เป็นการดีที่สุดที่จะหยุดทานยา หากไม่ใช่ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์และรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด -
นิ่วในถุงน้ำดี (Gallbladder disease)
ถุงน้ำดี อยู่ที่ด้านบริเวณขวาบนของกระเพาะอาหารติดกับตับ ในระหว่างการย่อยอาหาร ถุงน้ำดีจะปล่อยน้ำดีเข้าไปในลำไส้ผ่านทางท่อน้ำดี โรคถุงน้ำดีสามารถเปลี่ยนสีของอุจจาระได้
โรคนิ่วซึ่งเป็นหนึ่งในโรคถุงน้ำดีที่พบบ่อยที่สุด สามารถปิดกั้นท่อน้ำดีทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน และอุจจาระสีซีด หากไม่มีการรักษานิ่วอาจทำให้เกิดปัญหากับอวัยวะอื่น เช่น ตับอ่อน และตับ
การรักษาปัญหาถุงน้ำดีขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดขึ้น แพทย์อาจจำเป็นต้องเอานิ่วออก ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด หรือใช้ยาในการละลาย โดยปกติคนเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่ต้องถุงน้ำดี นอกจากนั้นแพทย์อาจเอาถุงน้ำดีออกในกรณีที่เกิดนิ่วซ้ำ แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนแปลงการทานอาหารหลังจากการผ่าตัด -
ปัญหาเกี่ยวกับตับ
ปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือท่อน้ำดี สามารถทำให้อุจจาระมีสีซีดได้ โดยโรคตับนั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่
โรคติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี ความเสียหายที่ตับ ซึ่งเกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์ โรคไขมันในตับพบมากที่สุดในผู้ที่มีโรคอ้วน หรือผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โรคแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายโจมตีเซลล์ของตับ ความล้มเหลวของอวัยวะอื่นๆ มะเร็งตับ ซีสต์ตับ โรควิลสัน ซึ่งเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ร่างกายเก็บรักษาทองแดงมากเกินไป
การรักษาโรคตับนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเฉพาะและความคืบหน้าของโรค สำหรับโรคตับที่ไม่รุนแรง ผู้ป่วยอาจต้องรับประทานยาและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ส่วนผู้ที่มีโรคตับอย่างรุนแรงอาจต้องทำการปลูกถ่ายตับ นอกจากตับแล้วเมื่อมีปัญหากับอวัยวะอื่น เช่น ถุงน้ำดี ก็สามารถส่งผลทำให้เกิดปัญหากับตับได้เช่นกัน นอกจากปัญหาเกี่ยวกับตับจะทำให้อุจจาระซีดแล้ว ยังอาการอื่น ๆ ของโรคตับอีก ได้แก่
คลื่นไส้และอาเจียน ความเมื่อยล้า ปัสสาวะสีเข้มมาก อุจจาระมีไขมัน มีอาการคัน บวมในข้อเท้าหรือขา
สำหรับทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์สำหรับโรคตับ ควรรายงานแพทย์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสีของอุจจาระด้วย -
ปัญหาตับอ่อน
โดยปกติแล้ว ตับอ่อนจะทำหน้าที่หลั่งน้ำหลั่งจากตับอ่อนเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การทำให้อาหารเคลื่อนไหวเร็วเกินไปผ่านทางเดินอาหาร ทำให้อุจจาระมีสีซีดและอ้วน นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีเงื่อนไขบางอย่าง ที่อาจทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้ ซึ่งเป็นอาการบวมและการอักเสบของตับอ่อน นอกจากนั้นยังเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นอีกด้วย
การติดเชื้อ โรคนิ่ว การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาหารที่มีไขมันสูง มะเร็งตับอ่อน
การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุ บางคนต้องการรักษาในโรงพยาบาลด้วยการให้ของเหลวหรือยาปฏิชีวนะ การผ่าตัดอาจรักษาตับอ่อนอักเสบได้ในบางรูปแบบ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับอาการและการพิจารณาของแพทย์ผู่เชี่ยวชาญ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจมาพร้อมกับอุจจาระสีซีด
หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดของอุจจาระสีซีด คือ อาการตัวเหลือง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะการสะสมของน้ำดีในร่างกาย ดีซ่านจะทำให้ผิวของคุณหรือรอบๆ ตาขาวกลายเป็นสีเหลือง เมื่อเกิดอาการตัวเหลืองขึ้นจึงควรเข้าปรึกษาหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะอาจเป็นอาการของโรคตับ
คุณกำลังดู: "อุจจาระสีซีด" สัญญาณบอกโรคอันตรายของร่างกาย
หมวดหมู่: สุขภาพ