"องุ่นแดง" กับ "องุ่นเขียว" มีคุณค่าอาหารแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า

"องุ่นแดง" กับ "องุ่นเขียว" มีคุณค่าอาหารแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า

องุ่นแดงและองุ่นเขียว ต่างก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ แต่องุ่นแดง มีสารสำคัญที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ให้สีม่วงแดงแก่ผลไม้ชนิดนี้ และไม่พบในองุ่นเขียว นอกจากนี้องุ่นแดงยังมีสารเรสเวราโทรล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง อยู่ในปริมาณที่มากกว่าองุ่นเขียวอีกด้วย

การเลือกองุ่นชนิดที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังมองหาอะไร องุ่นทุกชนิดมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่องุ่นสีเข้ม เช่น องุ่นแดง มักจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า¹ การเลือกชนิดขององุ่นจึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลเป็นหลัก

องุ่นเขียว กับ องุ่นแดง สิ่งที่เหมือนกัน

องุ่นทุกสี อุดมไปด้วยโพลีฟีนอลซึ่งพบได้ในทั้งเปลือก เนื้อ และเมล็ดขององุ่น โพลีฟีนอลมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และจากการศึกษาพบว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น ช่วยบำรุงหัวใจและชะลอความแก่

องุ่นเขียว กับ องุ่นแดง ความแตกต่าง

รสชาติ

  • องุ่นแดง มักจะมีรสชาติหวานกว่าองุ่นเขียว
  • องุ่นเขียว มักจะมีรสชาติเปรี้ยวมากกว่าองุ่นแดง

เรสเวราทรอล สารอาหารสำคัญที่พบในองุ่น

ทั้งองุ่นแดงและองุ่นเขียวมีเรสเวราทรอล แต่องุ่นแดงและองุ่นม่วงจะมีปริมาณเรสเวราทรอลมากกว่าองุ่นเขียวถึง 11 เท่าเลยทีเดียว เรสเวราทรอลนั้นพบมากในเปลือกขององุ่น ไวน์ขาวทำจากองุ่นที่ปอกเปลือกออกไปก่อนการหมัก ในขณะที่ไวน์แดงจะหมักพร้อมกับเปลือกองุ่น ดังนั้นไวน์แดงจึงมีเรสเวราทรอลสูงกว่าไวน์ขาวนั่นเอง

เรสเวราทรอล ถูกค้นพบว่ามีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่น่าสนใจหลายประการ ได้แก่

  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ
  • ต้านการอักเสบ: ลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด
  • ปกป้องหัวใจ: ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ปกป้องระบบประสาท: ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ประสาท และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม
  • ต้านมะเร็ง: มีศักยภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด

สรุป: เรสเวราทรอลเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ การบริโภคอาหารที่มีเรสเวราทรอลสูง เช่น องุ่นแดง ไวน์แดง หรืออาหารเสริมที่สกัดจากเรสเวราทรอล จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่ดี

ในขณะที่องุ่นเขียวมีโพลีฟีนอลส่วนใหญ่ในรูปแบบของฟลาวานอล องุ่นแดงกลับมีโพลีฟีนอลส่วนใหญ่ในรูปแบบของแอนโทไซยานิน

แอนโทไซยานิน คือสารสีที่ทำให้องุ่นแดงมีสีแดงสดใส นอกจากจะให้สีสันที่สวยงามแล้ว แอนโทไซยานินยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกมากมาย ได้แก่

  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • ต้านเบาหวาน: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ต้านมะเร็ง: ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • ต้านการอักเสบ: ลดการอักเสบในร่างกาย
  • ต้านจุลชีพ: ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค

แอนโทไซยานินที่สกัดจากเปลือกองุ่นมักถูกนำไปใช้เป็นสีผสมอาหารสีม่วงในอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เช่น แยม และเครื่องดื่ม

 

คุณกำลังดู: "องุ่นแดง" กับ "องุ่นเขียว" มีคุณค่าอาหารแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด