กิน "กล้วยน้ำว้า" หรือ "กล้วยหอม" ได้ประโยชน์มากกว่ากัน

กิน "กล้วยน้ำว้า" หรือ "กล้วยหอม" ได้ประโยชน์มากกว่ากัน

ยืนงงหน้าแผงผลไม้ ไม่รู้จะเลือกกล้วยชนิดไหนดีระหว่างกล้วยน้ำว้ากับกล้วยหอม? ทั้งคู่ต่างก็มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากล้วยแต่ละชนิดนั้นมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกันด้วยนะ การเลือกทานกล้วยให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงคุณประโยชน์ของกล้วยทั้งสองชนิด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกทานให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

กิน "กล้วยน้ำว้า" หรือ "กล้วยหอม" ได้ประโยชน์มากกว่ากัน

กล้วยแต่ละชนิดล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะสารทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขอย่างเอ็นโดรฟิน ทำให้การรับประทานกล้วยช่วยให้เรารู้สึกอารมณ์ดี แถมยังช่วยเพิ่มความสุขในการออกกำลังกายได้อีกด้วย

นอกจากนี้ กล้วยยังเป็นแหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย อาทิ วิตามินบีรวม วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งล้วนมีส่วนสำคัญในการทำงานของร่างกาย สารทริปโตเฟนในกล้วยยังช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย การรับประทานกล้วยก่อนนอนจึงช่วยให้นอนหลับสบายและลดอาการซึมเศร้า

อีกทั้ง กล้วยยังมีใยอาหารสูง ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และควบคุมน้ำหนักได้ดี นอกจากนี้ น้ำตาลในกล้วยยังถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อการกินจุบจิบ และช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่เพียงเท่านี้ กล้วยยังอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพที่ดี แต่ทราบหรือไม่ว่าระหว่างกล้วยน้ำว้า กับ กล้วยหอมกินอะไรได้ประโยชน์มากกว่ากัน

กินกล้วยน้ำว้าดีกว่ากล้วยหอมอย่างไรบ้าง

1.กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยกรดอะมิโนชนิดสำคัญอย่างอาร์จีนินและฮีสตีดิน ซึ่งเป็นสารอาหารที่พบมากในน้ำนมแม่ นอกจากนี้ ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าเทียบเคียงกับน้ำนมแม่ ทำให้กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

2.กล้วยน้ำว้าสุกห่าม 1 ผล มีปริมาณน้ำตาลเพียงประมาณ 1 ช้อนชาเท่านั้น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากให้พลังงานต่ำและมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.กล้วยน้ำว้าเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี โดยมีปริมาณแคลเซียมสูงกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ และเมื่อนำไปผ่านความร้อน เช่น ปิ้งหรือต้ม ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้จะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกถึง 5-6 เท่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ต้องการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

4.การรับประทานกล้วยน้ำว้าเป็นประจำ ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากใยอาหารในกล้วยน้ำว้าช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้ลำไส้สะอาด และยังช่วยลดปริมาณแบคทีเรียที่เกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นอุจจาระที่ไม่พึงประสงค์

5.กล้วยน้ำว้ายังมีแคลเซียมสูงกว่ากล้วยชนิดอื่น ๆ ยิ่งเมื่อถูกความร้อนปริมาณแคลเซียมจะเพิ่มขึ้น เมื่อนำไปปิ้งหรือต้ม สำหรับผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน กินกล้วยน้ำว้าปิ้งจะช่วยเสริมให้ได้แคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุนได้

ส่วนกล้วยหอมมีโพสแทสเซียมและแม็กนีเซียมสูงกว่ากล้วยชนิดอื่น จึงช่วยในการลดอาการอยากนิโคตินในผู้ที่ติดบุหรี่ได้ ดังนั้นใครอยากเลิกบุหรี่ต้องกินกล้วยหอม แต่ราคาแพงกว่า น้ำตาลมากกว่าเพราะต้องกินตอนสุกแล้ว กินนอนห่ามจะทำให้ท้องอืด

 

คุณกำลังดู: กิน "กล้วยน้ำว้า" หรือ "กล้วยหอม" ได้ประโยชน์มากกว่ากัน

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด