"เปลือกกล้วย" กินได้ไหม

"เปลือกกล้วย" ที่มีเส้นใยหนาเหล่านี้เป็นแหล่งโภชนาการที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม

"เปลือกกล้วย" กินได้ไหม

กล้วยเป็นผลไม้รสหวานนุ่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม "เปลือกกล้วย" ที่มีเส้นใยหนาเหล่านี้เป็นแหล่งโภชนาการที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม อย่างน้อยก็ในประเทศตะวันตก แต่ตรงกันข้ามกับที่หลายคนเชื่อ เปลือกกล้วยไม่เพียงแต่รับประทานได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมายอีกด้วย นอกจากประโยชน์ทางโภชนาการของการรับประทานเปลือกกล้วยแล้วยังมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย กล้วยเป็นผลไม้สดที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายที่สุดในอเมริกา การรับประทานเปลือกจะช่วยลดปริมาณอาหารที่ไปฝังกลบได้

ประโยชน์ด้านสุขภาพของเปลือกกล้วย

ทั้งกล้วยและเปลือกกล้วยอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับความสุกงอม กล้วยเขียวที่ยังไม่สุกอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าในการรักษาปัญหาทางเดินอาหาร ในขณะที่กล้วยดำคล้ำที่สุกกว่านั้นแสดงให้เห็นว่าช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับโรคและการติดเชื้อได้ โปรดทราบว่าการศึกษาจำนวนมากเหล่านี้ทำกับหนู ไม่ใช่มนุษย์ และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่ากล้วยมีผลกระทบแบบเดียวกันต่อมนุษย์หรือไม่ ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพบางประการของเปลือกกล้วย

กล้วยช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้

กล้วยอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟน และเปลือกกล้วยก็มีวิตามินบี 6 สารอาหารทั้งสองชนิดนี้เมื่อรวมกันสามารถช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์อื่นๆ ได้ ทริปโตเฟนจะเปลี่ยนเป็นสารเซโรโทนินเมื่อถูกย่อย ซึ่งช่วยปรับปรุงอารมณ์ของคุณ วิตามินบี 6 ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ส่งผลดีต่ออารมณ์ในระยะยาว

1.กลไกการออกฤทธิ์

  1. ทริปโตเฟน กรดอะมิโนชนิดนี้เป็นสารตั้งต้นของเซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการนอนหลับ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟน เช่น กล้วย ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง ส่งผลดีต่ออารมณ์และช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า

  2. วิตามินบี 6 วิตามินบี 6 มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญทริปโตเฟนให้เป็นเซโรโทนิน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งควบคุมการนอนหลับ การนอนหลับที่ดีมีผลต่ออารมณ์โดยรวม ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล

การบริโภคกล้วย

การรับประทานกล้วยเป็นประจำ 1-2 ผลต่อวัน อาจช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ ควรเลือกกล้วยหอมสุก เพราะมีทริปโตเฟนสูง อย่างไรก็ตาม กล้วยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรบริโภคกล้วยมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระวังปริมาณน้ำตาลในกล้วย
  • กล้วยไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์สำหรับภาวะซึมเศร้าื

2.สุขภาพระบบย่อยอาหาร

เปลือกกล้วยอุดมไปด้วยใยอาหาร ซึ่งช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูกและท้องเสีย

ใยอาหารในเปลือกกล้วยช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น

สำหรับผู้ที่มีโรคโครห์นหรือลำไส้แปรปรวน เปลือกกล้วยอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะใยอาหารจะช่วยเพิ่มมวลอุจจาระ ชะลอการดูดซึมน้ำตาล และลดการอักเสบในลำไส้

กลไกการออกฤทธิ์

  1. เพิ่มปริมาณอุจจาระ: ใยอาหารไม่ละลายน้ำในเปลือกกล้วยจะดูดซับน้ำ เพิ่มปริมาณอุจจาระ และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก

  2. กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้: ใยอาหารละลายน้ำจะจับกับน้ำตาลในลำไส้ใหญ่ เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ และช่วยให้ขับถ่ายเป็นปกติ

  3. ลดการอักเสบ: ใยอาหารบางชนิด เช่น เพคติน ช่วยลดการอักเสบในลำไส้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโรคโครห์นหรือลำไส้แปรปรวน

การบริโภคเปลือกกล้วย

  • สามารถตากแห้งและบดเป็นผง ผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่ม
  • นำมาต้มน้ำดื่ม
  • ผสมในสมูทตี้

3.สายตาที่ดีขึ้น

วิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตาให้แข็งแรงและสมบูรณ์ กล้วยทั้งผลและเปลือกมีวิตามินเออยู่เป็นจำนวนมาก

กลไกการออกฤทธิ์

วิตามินเอเป็นสารตั้งต้นของเรตินอล สารที่ช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อย (night vision) และช่วยป้องกันเซลล์ในดวงตาจากความเสียหาย

การบริโภคกล้วย

การรับประทานกล้วยเป็นประจำ 1-2 ผลต่อวัน อาจช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ และจอประสาทตาเสื่อม

4.เปลือกกล้วยอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

เปลือกกล้วยอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล แคโรทีนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง การรับประทานเปลือกกล้วยมากขึ้น โดยเฉพาะเปลือกกล้วยดิบสีเขียว สามารถเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านมะเร็งของเปลือกกล้วยนั้นทำในหลอดทดลอง ไม่ได้ทดสอบกับมนุษย์ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อศึกษาว่าเปลือกกล้วยสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งในคนได้หรือไม่

กลไกการออกฤทธิ์

  • สารต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระในเปลือกกล้วย เช่น โพลีฟีนอล แคโรทีนอยด์ และวิตามินซี ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่อาจทำลายเซลล์และนำไปสู่มะเร็ง
  • ไฟเบอร์: เปลือกกล้วยมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

 

คุณกำลังดู: "เปลือกกล้วย" กินได้ไหม

หมวดหมู่: ผู้หญิง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด