"สับปะรด" กับ 7 ผลกระทบ ผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่ควรใส่ใจ
สับปะรดะมีรสชาติสดชื่นและช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะหั่นเป็นชิ้นๆ ผสมเป็นเครื่องดื่ม
สับปะรดมีรสชาติสดชื่นและช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะหั่นเป็นชิ้นๆ ผสมเป็นเครื่องดื่ม หรือใช้ประกอบอาหาร สับปะรดก็ยังคงมีบทบาทสำคัญเสมอ อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีข้อดีและข้อเสีย และแม้แต่ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างสับปะรดก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้เช่นกัน หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป สับปะรดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาบางชนิด
7 ผลข้างเคียงของสับปะรด
แม้ว่าสับปะรดจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ต่อไปนี้คือผลข้างเคียงของสับปะรดที่คุณควรรู้
1.อาการแพ้ การบริโภคสับปะรดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน เนื่องจากสับปะรดมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ นอกจากนี้ สับปะรดะยังอาจทำให้เกิดอาการแพ้ลาเท็กซ์ในบางราย อาการแพ้สับปะรดมักจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
2.ผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด หนึ่งในผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากการบริโภคสับปะรดมากเกินไปคือการทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น การบริโภคสับปะรดในปริมาณมากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในผู้ที่มีความเสี่ยง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา
สับปะรดมีน้ำตาลกลูโคสและซูโครสเป็นส่วนประกอบหลัก และเมื่อบริโภคเข้าไป ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ผลไม้ส่วนใหญ่มีคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นแหล่งของน้ำตาล เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเช่นกัน โดยเฉลี่ยแล้ว สับปะรดครึ่งถ้วยจะมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 15 กรัม
3.ผลกระทบของเอนไซม์บรอเมเลน บรอเมเลน เป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่พบได้ในน้ำสับปะรดและลำต้นของสับปะรด เอนไซม์นี้มีผลต่อร่างกายของเรา และเมื่อรับประทานในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ บรอเมเลนมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ซึ่งหมายความว่าหากรับประทานบรอเมเลนร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกได้
4.ปฏิกิริยาระหว่างสับปะรดกับยา การบริโภคสับปะรดร่วมกับยาบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้นได้ เอนไซม์บรอเมเลนในสับปะรดอาจเพิ่มการดูดซึมของยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น อะม็อกซิซิลลินและเตตราไซคลิน ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในบางบุคคล อาการที่เกิดขึ้นคือ เจ็บหน้าอก เลือดกำเดาไหล หนาวสั่น ไข้ เวียนหัว
5.ผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก และฟันผุ แม้สับปะรดจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ แต่การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ ผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง เช่น สับปะรด เมื่อรับประทานเข้าไป กรดในผลไม้จะทำปฏิกิริยากับผิวเคลือบฟัน ทำให้ผิวเคลือบฟันบางลงและเสื่อมสภาพ หากไม่ดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ดี อาจทำให้เกิดฟันผุได้
6.โรคภูมิแพ้ทางปาก เป็นอาการแพ้ชนิดหนึ่งที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าใจผิดคิดว่าโปรตีนในอาหารบางชนิด เช่น สับปะรด เป็นละอองเกสรดอกไม้หรือสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ เมื่อร่างกายสัมผัสกับโปรตีนเหล่านี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองโดยการปล่อยสารฮิสตามีนออกมา ทำให้เกิดอาการแพ้ อาการทั่วไปที่พบหลังจากรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ บวมที่ริมฝีปาก ลิ้น หรือเพดานปาก คันคอ
7.ท้องเสีย เป็นอีกหนึ่งอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการบริโภคสับปะรดในปริมาณมาก
เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับสับปะรด
มีคนเชื่อว่าเอนไซม์บรอเมเลนในสับปะรดสามารถย่อยสลายโปรตีนบนลิ้นและเพดานปาก ทำให้รู้สึกแสบร้อนหลังรับประทานสับปะรด พวกเขาบอกว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้ รวมถึงผลไม้ด้วย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ผลไม้บางชนิดอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่บางชนิดก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
คุณกำลังดู: "สับปะรด" กับ 7 ผลกระทบ ผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่ควรใส่ใจ
หมวดหมู่: ผู้หญิง