ขจัด 5 ปัญหาผิวพรรณด้วยอาหารในครัวตามคำแนะนำของนักจัดอาหารชาวญี่ปุ่น
ปัญหาต่างๆ ของผิวพรรณ เช่น ฝ้า กระ ผิวหนังเหี่ยวย่น ผิวหนังแห้งกร้าน หรือรอยคล้ำใต้ตา มีมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลายกลุ้มใจไม่น้อย มารู้วิธีการป้องกันและดูแลผิวพรรณให้งดงามกว่าวัยด้วยการรับประทานอาหารตามคำแนะนำของนักจัดอาหารชาวญี่ปุ่นกันค่ะ
ขจัดฝ้าด้วยไลโคปีนจากมะเขือเทศ
รังสียูวีก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำบนผิวพรรณ หากปล่อยทิ้งไว้เนิ่นนานก็จะยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น สารไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันและบรรเทาฝ้า กระและจุดด่างดำบนผิวพรรณได้ ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยไลโคปีนได้แก่มะเขือเทศสุก มะเขือเทศปรุงสุก และน้ำมะเขือเทศ เป็นต้น หากนำมะเขือเทศไปผัดกับน้ำมันหรือทานกับน้ำมันมะกอกจะยิ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารไลโคปีนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
ป้องกันรอยเหี่ยวย่นด้วยมะเขือม่วง
เช่นเดียวกับปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำบนผิวพรรณ สารอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวีทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนผิวพรรณได้ง่าย มะเขือม่วงที่อุดมไปด้วยสารนาซูนิน (Nasunin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยป้องกันผิวหนังเหี่ยวย่นได้
วิธีทานมะเขือม่วงเพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์จากสารนาซูนินให้มากที่สุดคือการนำมะเขือม่วงทั้งเปลือกมาผัดกับน้ำมัน ทั้งนี้สารนาซูนินจะละลายน้ำได้ง่ายจึงควรหลีกเลี่ยงการหั่นมะเขือม่วงแช่น้ำเป็นเวลานาน
ขจัดรอยคล้ำใต้ตาด้วยขึ้นฉ่ายฝรั่ง
รอยคล้ำใต้ตาเกิดจากความเหนื่อยล้าและการพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับสนิทจะช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นคุณภาพการนอนหลับของคนเราจะลดน้อยลง แม้จะนอนหลับพักผ่อนแล้วก็ยังไม่รู้สึกหายเหนื่อย สารให้กลิ่นหอมอะพิอิน (Apiin) ที่มีมากในขึ้นฉ่ายฝรั่งจะช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานอย่างสมดุล ทำให้นอนหลับสนิททั้งคืน และช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้
สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณด้วยบุก
เซลล์ชั้นนอกสุดของคนเราประกอบไปด้วยสารที่เรียกว่าเซราไมด์ (Ceramide) เมื่อคนเราอายุเลย 40 ปี ระบบการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ผิวหนังจะช้าลงและปริมาณเซราไมด์ที่ผิวหนังชั้นนอกจะลดน้อยลงตามอายุ เมื่ออายุย่างเข้า 50 ปี ปริมาณเซราไมด์จะลดเหลือครึ่งหนึ่งของเมื่อตอนอายุ 20 ปี
บุกอุดมไปด้วยสารกลูโคซิลเซราไมด์ (Glucosylceramide) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เซราไมด์ การรับประทานบุกอาทิตย์ละประมาณ 300 กรัม ประมาณ 3 เดือนจะช่วยทำให้ผิวพรรณที่แห้งกร้านมีความชุ่มชื้นขึ้น
ขจัดปัญหาผิวหนังหยาบกร้านด้วยกะหล่ำปลี
สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีของลำไส้และความเครียดจะทำให้ท้องผูกและขับถ่ายยาก หากมีอาการท้องผูกติดต่อกันเป็นเวลานานจะส่งผลให้ผิวพรรณหยาบกร้านหมองคล้ำ กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น และอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้น การรับประทานกะหล่ำปลีสดเป็นประจำจึงช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาผิวหนังหยาบกร้านได้ดี
หากรู้สึกว่าผิวพรรณตัวเองหยาบกร้าน มีฝ้า กระ รอยเหี่ยวย่นและรอยคล้ำใต้ตาด้วยอายุที่มากขึ้น ลองนำบุกหรือผักดังกล่าวไปประกอบอาหารในประจำวันดูค่ะ ต่อให้อายุมากขึ้นก็อย่าเพิ่งหยุดดูแลตัวเอง มาชะลอความแก่ซึ่งเป็นศัตรูของผู้มีอายุเกิน 40 ปี ด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อความงามกันค่ะ
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ ขจัด 5 ปัญหาผิวพรรณด้วยอาหารในครัวตามคำแนะนำของนักจัดอาหารชาวญี่ปุ่น
คุณกำลังดู: ขจัด 5 ปัญหาผิวพรรณด้วยอาหารในครัวตามคำแนะนำของนักจัดอาหารชาวญี่ปุ่น
หมวดหมู่: ผู้หญิง