10 เทคนิค "ลดพุง" ที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผล
ลองลดพุงมาหลายวิธีแล้วก็ยังไม่ได้ผล ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีลดพุงที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผลแน่นอนกันเลยดีกว่า
หลายคนอาจกำลังประสบปัญหา ใส่กางเกงได้ แต่ติดกระดุมไม่ได้ เพราะติดพุง! บางทีก็ถึงขั้นรูดซิปไม่ได้เลย จึงคิดว่าต้องกำจัดไขมันส่วนเกินตรงหน้าท้องเสียแล้ว แต่ลองมาแล้วหลายวิธีก็ยังไม่ได้ผล ถ้าอย่างนั้นลองมาดู วิธีลดพุงที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผลแน่นอนกันเลยดีกว่า
-
กินอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
การกินอาหารที่มี ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats, MUFAs) ในทุกๆ มื้อ เช่น น้ำมันมะกอก ถั่วอัลมอนด์ หรืออะโวคาโด จะช่วยให้ไขมันในช่องท้องลดลงได้ ข้อมูลจากวารสาร Journal for Diabetes Care อธิบายว่า การกินอาหารที่อุดมไปด้วย ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันในช่องท้อง เนื่องจากไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญไขมัน ทำให้ลดพุงได้
-
เคี้ยวอาหารนานๆ
การเคี้ยวอาหารนานๆ เป็นวิธีการที่ป้องกันอาการท้องอืดได้ดีเยี่ยม โดยให้เคี้ยวอาหารจนละเอียดเป็นเนื้อเหลว จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ไม่มีแก๊สในกระเพาะ และไม่มีอาการท้องอืดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พุงป่องออกมา
-
เลี่ยงแป้งแบบขัดสีหรืออาหารแปรรูป
ขนมปังขาว แคร็กเกอร์ หรือมันฝรั่งทอด พวกน้ำหวาน และของหวาน จะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้ เนื่องจากเมื่อกินเข้าไปแล้วอินซูลินจะสูง ส่งผลให้ร่างกายไม่เผาผลาญไขมัน ทำให้พุงไม่ยุบนั่นเอง
-
กินซุปก่อนกินข้าว
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการกินซุปแคลอรีต่ำ 1 ถ้วย ก่อนการกินข้าวกลางวัน หรือข้าวเย็น จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ในมื้ออาหาร 20% หากใครที่อยากลดพุงแบบไม่ทรมาน ลองหาซุปซักถ้วยมากินก่อนมื้ออาหารดู
-
ออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ
ถ้าคุณต้องการเผาผลาญไขมันช่องท้อง หรือต้องการลดพุง งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิคช่วยลดไขมันในช่องท้องได้ดีที่สุด ความจริงแล้วการออกกำลังกายแบบแอโรบิค สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ 67% ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายแบบฝืนแรงต้านทาน (Resistance training) ด้วย
-
กินดาร์กช็อกโกแลต
วารสาร American Journal of Clinical Nutrition ให้ข้อมูลว่า การกินอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats, MUFAs) จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วกว่าอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ซึ่งดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ถ้าเรากินเข้าไปก็จะช่วยลดพุงได้ เพราะดาร์กช็อกโกแลต มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน และงานวิจัยจากประเทศเดนมาร์กยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตทำให้รู้สึกอิ่มนาน จึงช่วยในการลดพุง ลองกินดาร์กช็อกโกแลตความเข้มข้น 70% ขึ้นไป รู้ตัวอีกทีพุงอาจจะหายไปแล้วก็ได้
-
กินอาหารโปรตีนสูง
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ ในวารสารวิชาการ Nutrition, Metabolism and Cardiovascular Diseases ได้ติดตามผล จากการกินอาหารที่มีโปรตีนสูงเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ผลการวิจัยพบว่า การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงจะช่วยลดไขมันในช่องท้อง ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ แถมยังช่วยลดประมาณคลอเลสเตอรอล และปริมาณไขมันในเลือดด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากลดพุง ก็ต้องกินอาหารโปรตีนสูงอย่าง อกไก่ ไข่ขาว นม หรือถั่ว ก็จะช่วยทำให้สุขภาพดี และลดพุงได้แน่นอน
-
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ
มีงานวิจัยที่ชี้ว่า การกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ จะทำให้ลดน้ำหนักได้มากกว่าการกินอาหารที่มีไขมันต่ำ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำที่หาซื้อได้ง่ายก็เช่น ผลไม้ และถั่วเปลือกแข็ง วิธีกินอาหารให้ลดพุงได้แบบง่ายๆ คือ กินถั่วแทนขนมขบเคี้ยว เช่น ถั่วอัลมอนด์ ถั่วต้ม เพิ่มผลไม้ลงไปในมื้ออาหาร และต้องไม่ลืมที่จะกินอาหารโปรตีนสูงกับกินผักด้วย
-
ลดน้ำตาล
การใส่น้ำตาลเพิ่มในกาแฟ ก๋วยเตี๋ยว หรือการกินของหวาน ทำให้เรามีพุง งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2013 ในวารสาร Obesity ให้ข้อมูลว่า การเพิ่มน้ำตาลในมื้ออาหาร จะเพิ่มคลอเรสเตอรอลด้วย ซึ่งคลอเรสเตอรอลทำให้เรามีพุง แถมงานวิจัยยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า น้ำตาลมีผลต่อระดับคอเลสเตอรอล และคอเลสเตอรอลก็เกี่ยวข้องกับการเกิดไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย
-
ออกกำลังกายแบบ HIIT
การออกกำลังกายแบบ HIIT หรือ high-intensity interval training (การออกกำลังกายแบบหนักเบาสลับกันเป็นช่วงๆ) จะช่วยเผาผลาญไขมันช่องท้องได้ งานวิจัยที่เผยแพร่ในปี 2015 ในวารสาร The Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ได้ทดลองเปรียบเทียบกลุ่มที่ออกกำลังกายธรรมดา กับกลุ่มที่ออกกำลังกายธรรมดา และเพิ่มการออกกำลังกายแบบ HIIT ไปด้วยอีก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ผลการทดลองพบว่า กลุ่มที่เพิ่มการออกกำลังกายแบบ HIIT มีปริมาณไขมันในช่องท้องลดลง และสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น ข้อควรระวังคือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาคุณหมอก่อนออกกำลังกายแบบ HIIT ส่วนใครที่สุขภาพค่อนข้างดีแต่มีพุง ก็แนะนำให้ลองออกกำลังกายแบบ HIIT เพิ่ม แค่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยลดพุงได้แน่นอน
คุณกำลังดู: 10 เทคนิค "ลดพุง" ที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผล
หมวดหมู่: สุขภาพ